บล.เอเซีย พลัส (ASP) ให้กรอบดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) เดือน ธ.ค.67 ไว้ที่ 1,380-1,460 จุด ปัจจัยในประเทศ แม้เศรษฐกิจยังเติบโตช้าแต่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากนโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะเม็ดเงินคงเหลือของงบประมาณปี 2567 และเม็ดเงินใหม่จากการอนุมัติงบประมาณปี 2568 คาดว่าจะทยอยขับเคลื่อนการเติบโตของ GDP ไทยในช่วงไตรมาส 4/67 ต่อเนื่องถึงปี 68
ขณะที่ช่วงที่เหลือของปี 67 นี้ คาดว่าเม็ดเงินจากกองทุน ThaiESG ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไม่เต็มที่ เพราะอาจถูกแบ่งเข้าไปในตลาดตราสารหนี้ครึ่งหนึ่ง รวมถึงภาพรวมตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากการขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอายุ แม้บางส่วนสลับเข้ามาซื้อกองทุน ThaiESG cแต่คาดว่าจะเป็นกองทุนทราสารหนี้ นอกจากนี้ ช่วงต้นปีหน้าตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงขาของกองทุน LTF ที่ครบอายุอีกกว่า 2.4 แสนล้านบาท
ในมุม Valuation ของ SET Index ปี 68 ภายใต้คาดการณ์ EPS ในปีหน้าที่ 97 บาท/หุ้น, ดอกเบี้ยนโยบาย 2.25% อิง MEYG ที่ 3.8% ได้ดัชนี SET เป้าหมายที่ 1,600 จุด แต่หากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง เหลือ 2.0% จะได้ดัชนี SET เป้าหมายที่ 1,670 จุด แนะนำหุ้นพื้นฐานดี มีเกราะป้องกันในยุค TRUMP 2.0 อย่าง CRC, MAJOR, MTC, ADVICE, CBG, SIRI
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ มองว่า สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน บวกกับการปลี่ยนแปลงการเมืองโลกกำลังเป็นเรื่องที่ตลาดการเงินกลับมาให้น้ำหนักมากขึ้น นำไปสู่ยุค Deglobalization ซึ่งหลายๆ ประเทศมีความจำเป็นที่จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้น
ในมุมของตลาดการเงินบ้านเรามีหลายความเสี่ยงที่พึงระวัง คือ 1). ความกังวลการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสหรัฐ แม้หนุนให้ EPS Growth สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4% แต่กดดัน Fund Flow บางส่วนออกจากบ้านเราไหลกลับเข้าไปที่สหรัฐฯ
2) การที่สหรัฐจะตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้า กดดันการส่งออกของไทย โดยเฉพาะไทยพึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐฯ สูงขึ้นเรื่อยๆ จนมีสัดส่วน 17% ของการส่งออกทั้งหมด ส่วนการส่งออกไปจีนก็อาจเจออุปสรรคจาก Supply ที่เพิ่มขึ้นเมื่อสหรัฐตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยต้องพึ่งพาการเติบโตในประเทศมากขึ้น ทั้งการเร่งเบิกจ่ายภาครัฐ และการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง
3) อัตราดอกเบี้ยนโยบายในสหรัฐฯ อาจถูกตรึงไว้ในระดับสูงนานขึ้น เช่นเดียวกับไทย หลังตัวเลขเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้าหมายของธปท. ส่งผลให้ค่าเงินบาทผันผวนมากขึ้น ส่วน Fund Flow ยังมี Momentum ไหลออก จากความกังวลต่อการก้าวเข้าสู่ยุค TRUMP 2.0 เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงการส่งออกสูงกว่าประเทศอื่นๆ ใน ภูมิภาค อีกทั้ง Trailing P/E ตลาดหุ้นไทยเกิน 20 เท่า ยังดูแพงในเชิงเปรียบเทียบตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 67)
Tags: ASP, SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย, เอเซีย พลัส