ข้อมูลจากมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) และผู้ให้บริการข้อมูลรายอื่น ๆ เผยให้เห็นว่า การจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์เนื่องในวันแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ยอดขายหน้าร้านค่อนข้างเงียบเหงาในสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก Mastercard SpendingPulse ซึ่งเป็นตัวชี้วัดยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ ทั่วเครือข่ายการชำระเงินของมาสเตอร์การ์ด รวมกับการชำระเงินด้วยเงินสดและเช็คโดยประมาณ ระบุว่า ยอดขายออนไลน์ในสหรัฐฯ ทะยานขึ้น 14.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดขายหน้าร้านขยับขึ้นเพียง 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
การจับจ่ายรวมออนไลน์และหน้าร้านในวันแบล็กฟรายเดย์เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยไม่รวมยอดขายรถยนต์และไม่ได้ปรับค่าตามเงินเฟ้อ ส่วนในช่วงวันที่ 1 พ.ย. ถึง 24 ธ.ค. คาดว่าการจับจ่ายรวมออนไลน์และหน้าร้านจะเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ด้านบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Facteus ระบุว่า ยอดขายออนไลน์โต 11.1% ส่วนยอดขายหน้าร้านลดลง 5.4% แต่เมื่อปรับค่าตามเงินเฟ้อ ยอดขายออนไลน์โตเพียง 8.5% และยอดขายหน้าร้านร่วงลง 8%
ทั้งนี้ เทศกาลแบล็กฟรายเดย์ซึ่งมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ เป็นเทศกาลที่เหล่าผู้ค้าปลีกจะลดราคาสินค้าเพื่อกระตุ้นยอดขาย เดิมทีแล้วเป็นเทศกาลที่ขึ้นชื่อเรื่องการต่อคิวยาวเหยียดเพื่อซื้อของในร้านค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ก่อนที่จะแพร่หลายไปบนช่องทางออนไลน์มากขึ้นและกระจายไปทั่วโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 67)
Tags: Black Friday, ช็อปปิ้งออนไลน์, สหรัฐ, สินค้าออนไลน์