“ชูศักดิ์” ยกบทเรียนปฏิวัติรัฐประหาร เตือนสติอย่าดึงประเทศกลับสู่วังวนเดิม

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเดินทางมายื่นหนังสือถึงรัฐบาล ขอให้ชี้แจง MOU ไทย-กัมพูชา 2544 รวมถึงการประกาศจะมีการปลุกม็อบลงถนนว่า ตั้งแต่ความขัดแย้งปี 57 สุดท้ายก็นำไปสู่การทำปฏิวัติรัฐประหาร ประสบการณ์เหล่านี้น่าจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเทศไทย เพราะประเทศไทยหยุดกับที่และถอยหลัง ประเทศอื่นเขาเดินก้าวหน้ากันไปเท่าไรแล้ว แต่เรายังถอยหลังเพราะปัญหาการเมือง ทำให้ประเทศถูกฉุดรั้ง จึงเป็นเรื่องที่ต้องพึงระลึกว่าจะกลับถอยหลังไปวังวนเดิม ๆ ทำให้ประเทศไทยหยุดอยู่กับที่ไปไหนไม่ได้ ตนคิดว่า ขอให้พิจารณาดูเองว่าจะเป็นอย่างไร

นายชูศักดิ์ ระบุว่า กรณี MOU44 เป็นเรื่องที่ทำมาแล้วตั้งแต่ปี 44 ไม่มีอะไรที่จะทำให้ต้องเสียดินแดนอะไร เป็นเรื่องของการเจรจา หลักการเจรจา และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเจรจากัน ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการด้วยซ้ำ และหากเจรจาแล้วก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาด้วย

ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไม่ครบ 1 ปีนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่จะเป็นปัจจัย หรือเรื่องหนักใจคอขาดบาดตาย ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้วิตกเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังตรวจสอบคำร้องเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทยด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 67)

Tags: ,
Back to Top