รัฐบาลญี่ปุ่นคงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง พร้อมเตือนเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวขณะเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจประจำเดือนพ.ย. ในวันนี้ (26 พ.ย.) ว่า “แนวโน้มต่าง ๆ ในเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถส่งผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น และเราจำเป็นต้องระวังความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุนด้วย”
ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% เมื่อเขาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันแรก และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยระบุถึงเหตุผลเรื่องการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและการค้ายาเสพติด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในต่างประเทศและตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ซบเซา ก็ถูกระบุว่าเป็นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นด้วยเช่นเดียวกัน
คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง แม้บางส่วนจะยังหยุดชะงัก ส่งผลให้การประเมินยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยมุมมองของรัฐบาลต่อภาคส่วนย่อยที่สำคัญส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึง ภาคการบริโภคและการลงทุนด้านทุน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ปรับเพิ่มการประเมินด้านการนำเข้า และปรับลดการประเมินด้านการลงทุนของภาครัฐลง
นอกจากนี้ สำนักงานคณะรัฐมนตรียังได้ปรับมุมมองต่อราคาสินค้าของบริษัทในประเทศเป็น “ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในช่วงนี้” และราคาผู้บริโภคเป็น “เพิ่มขึ้นในช่วงนี้” ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของราคาข้าวและต้นทุนวัตถุดิบ อันเป็นผลจากเงินเยนที่อ่อนค่าและค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์เพราะขาดแคลนแรงงาน
รัฐบาลระบุว่า การบริโภคภาคเอกชน ซึ่งครองสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศ ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าจ้าง โบนัสฤดูร้อนที่มากขึ้น และการปรับลดภาษีเงินได้ชั่วคราว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 67)
Tags: ญี่ปุ่น, เศรษฐกิจญี่ปุ่น