เอออน (Aon) บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรบุคคลระดับโลก เปิดเผยว่า งบประมาณการขึ้นเงินเดือนประจำปี 2568 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มสูงกว่าปี 2567 โดยคาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการผลิต ส่วนอุตสาหกรรมพลังงานและบริการทางการเงินมีแนวโน้มปรับขึ้นเงินเดือนน้อยที่สุด ขณะที่เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ พบว่า สิงคโปร์และไทยรั้งท้ายประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
ข้อมูลดังกล่าวรวมอยู่ในรายงานสำรวจการบริหารความเสี่ยงทั่วโลก (Global Risk Management Survey) ซึ่งได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากบริษัทมากกว่า 950 แห่งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. 2567
รายงานบ่งชี้ด้วยว่า ธุรกิจในภูมิภาคมีแนวโน้มที่จะรักษาหรือเพิ่มจำนวนพนักงานโดยรวม แม้ความล้มเหลวในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูงได้กลายเป็นความเสี่ยงสำคัญสำหรับองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเลื่อนจากการเป็นความเสี่ยงอันดับที่ 9 ในปี 2564 มาเป็นอันดับที่ 4 ในปี 2566
สำหรับการคาดการณ์การปรับขึ้นเงินเดือนใน 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเอออน มีดังนี้
เวียดนาม
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 7.5%
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 6.4%
การปรับขึ้นเงินเดือนตามงบประมาณในปี 2568: 6.7%
อินโดนีเซีย
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 6%
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 5.7%
การปรับขึ้นเงินเดือนตามงบประมาณในปี 2568: 6.3%
ฟิลิปปินส์
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 5.2%
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 5.4%
การปรับขึ้นเงินเดือนตามงบประมาณในปี 2568: 5.8%
มาเลเซีย
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 5%
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 4.9%
การปรับขึ้นเงินเดือนตามงบประมาณในปี 2568: 5%
ไทย
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 4.7%
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 4.4%
การปรับขึ้นเงินเดือนตามงบประมาณในปี 2568: 4.7%
สิงคโปร์
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2566: 4%
การปรับขึ้นเงินเดือนจริงในปี 2567: 4.2%
การปรับขึ้นเงินเดือนตามงบประมาณในปี 2568: 4.4%
ผลสำรวจของเอออนยังระบุว่า การปรับขึ้นเงินเดือนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นทั่วทุกอุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการผลิตมีแนวโน้มปรับขึ้นเงินเดือนสูงสุดที่ระดับ 5.8% ขณะที่ภาคค้าปลีก, ภาคบริการให้คำปรึกษา บริการทางธุรกิจ และบริการชุมชน รวมทั้งอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์และอุปกรณ์การแพทย์ มีแนวโน้มปรับขึ้นเงินเดือน 5.4%
ส่วนอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะปรับขึ้นเงินเดือนน้อยที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงาน (4.9%), บริการทางการเงิน (4.8%) และอุตสาหกรรมการขนส่ง (4.1%)
ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่า งบประมาณการขึ้นเงินเดือนประจำปี 2568 ในสิงคโปร์และไทยมีแนวโน้มที่จะอยู่ต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยอยู่ที่ 4.4% และ 4.7% ตามลำดับ
“การปรับขึ้นเงินเดือนในสิงคโปร์มักจะตามหลังประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นตลาดที่พัฒนาแล้ว อัตราเงินเฟ้อจึงมีแนวโน้มที่จะอยู่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นรวดเร็วกว่า” ราหุล จาวลา หุ้นส่วนและหัวหน้าฝ่าย Talent Solutions ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอออน กล่าวกับซีเอ็นบีซี
นอกจากนี้ จาวลากล่าวว่า อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค จึงส่งผลถึงการปรับขึ้นเงินเดือนด้วยเช่นกัน
ในส่วนของประเทศไทยนั้น จาวลากล่าวว่า ไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค อีกทั้งบุคลากรของไทยมีความคล่องตัวน้อยกว่าในแง่ของภาษาและการกระจายงาน จึงทำให้บุคลากรของไทยมีแนวโน้มที่จะอยู่ในตลาดของตัวเองเท่านั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 67)
Tags: ค่าจ้าง, สิงคโปร์, เงินเดือน, ไทย