นักวิเคราะห์คาดยอดส่งออกจีนทำสถิติสูงสุดปีนี้ ก่อน “ทรัมป์” คัมแบคทำเนียบขาว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของจีนจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มลูกค้าในต่างประเทศของจีนจะเร่งสั่งซื้อสินค้า ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.ปีหน้า

สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้ทำการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ในระหว่างวันที่ 15-21 พ.ย. ซึ่งพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ายอดส่งออกของจีนจะพุ่งขึ้น 7% ในไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้นจากระดับ 5% ในการสำรวจก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออกโดยรวมของจีนในปี 2567 พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.548 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าสถิติสูงสุดที่ทำไว้ในปี 2565

เอริกา เทย์ นักวิเคราะห์จากเมย์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แบงกิง กรุ๊ป (Maybank Investment Banking Group) กล่าวว่า “การส่งออกของจีนมีแนวโน้มที่จะได้รับปัจจัยบวกจากการที่บริษัทต่างชาติแห่สต็อกสินค้า นอกจากนี้ เราคาดว่าสงครามการค้าอาจจะเป็นปัจจัยผลักดันให้รัฐบาลจีนหันมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตด้านการอุปโภคบริโภคภายในประเทศในปีหน้า”

ในเดือนต.ค.ปีนี้ ยอดส่งออกของจีนพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 12.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดนำเข้าลดลง 2.3% ในเดือนต.ค. โดยยอดส่งออกที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 9.527 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 8.171 หมื่นล้านดอลลาร์

สำหรับในไตรมาส 3 ปีนี้ การส่งออกของจีนขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 ซึ่งทำให้จีนมีแนวโน้มที่จะทำสถิติเกินดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้

ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทรัมป์ประกาศว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับสูงถึง 60% ซึ่งเป็นระดับที่นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ส่วนในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรกนั้น เขาได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top