หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งผันผวนอิงทางลบห้วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน,กังวลงบ NVDIA-DELTA กดดัน

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดแกว่งผันผวนอิงทางลบ รับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ประกอบกับโอกาสการลปรับดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนปรับลดน้ำหนักเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ลงมาเหลือแค่ 52% ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ(บอนด์ยีลด์) ขยับขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับแม้ผลประกอบการ NVDIA จะออกมาดี แต่การซื้อขายเริ่มชะลอลงจากความกังวลแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 นี้

ขณะที่มีแรงกดดันจากในประเทศ หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้หุ้น DELTA เป็นหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องซื้อขายด้วย Cash Balance ตั้งแต่ 21 พ.ย.-11 ธ.ค.67 และขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนเข้าซื้อขาย อาจทำให้ตลาดบ้านเราผันผวนได้พอสมควร

ให้แนวรับไว้ที่ 1,440 จุด และแนวต้านที่ 1,470 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 พ.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,408.47 จุด เพิ่มขึ้น 139.53 จุด หรือ +0.32%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,917.11 จุด เพิ่มขึ้น 0.13 จุด หรือ +0.002% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,966.14 จุด ลดลง 21.33 จุด หรือ -0.11%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,352.87 จุด ขยับขึ้น 0.53 จุด หรือ +0.001% แต่หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 248.33 จุด หรือ -0.65% สู่ระดับ 38,104.01 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,646.04 จุด ลดลง 58.97 จุด หรือ -0.30% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,362.94 จุด ลดลง 5.05 จุด หรือ -0.15%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 พ.ย.67) ที่ 1,462.48 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด (+0.16) มูลค่าซื้อขาย 34,816.52 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,373.78 ล้านบาท (20 พ.ย.67)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (20 พ.ย.67) ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 68.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 พ.ย.67) อยู่ที่ 5.95 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.64 แนวโน้มแกว่ง Sideways จับตาสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน, ข้อมูลศก.สหรัฐ
  • เจรจาแบงก์พาณิชย์ ร่วมลงขันช่วยแก้ปัญหาหนี้ “เผ่าภูมิ” เปิดรายละเอียดแผนแก้หนี้ NPL ผิดนัดชำระหนี้ไม่เกิน 1 ปี 2.3 ล้านราย วงเงินรวม 1.31 ล้านล้านบาท หั่นเงินนำส่ง FIDF 0.23% ช่วยจ่ายดอกเบี้ยในการพักชำระหนี้ 3 ปี ธปท.ห่วงพฤติกรรมจงใจผิดนัดชำระหนี้ “จุลพันธ์” หวังอานิสงส์แจกเงินหมื่นดันจีดีพีปีนี้ 2.8% เผยกระตุ้นปีหน้าอัดงบเหลือจากงบกระตุ้น เศรษฐกิจ 1.47 แสนล้าน ลงระบบเศรษฐกิจ
  • รัฐบาลจ่อแจกหมื่นรับสงกรานต์ ก.คลังแจงเฟส 3 วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท ไม่ได้เงินสดให้ผ่านวอลเล็ต ส่วนกลุ่มเปราะบางเก็บตกยังพิจารณาแต่ยืนยันลงทะเบียนไว้และได้สิทธิได้ทุกคน ย้ำกลุ่มสูงวัยเกิน 60 ปีได้แน่นอนก่อนตรุษจีน ปลื้มเฟสแรกดันเศรษฐกิจโต คาดทั้งปีจีดีพีแตะ 3%
  • รมว.พลังงาน สั่ง กกพ.ระงับเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เฟส 2 ชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จ หลังมีผู้โต้แย้ง ด้านโบรกมองเป็นเซ็นทิเมนต์เชิงลบระยะสั้นกับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า แนะตามติดการปรับเงื่อนไขประมูลใหม่ โดยเฉพาะโครงการผ่านเกณฑ์ค้างรอบแรก
  • “นายกฯ อิ๊งค์” วางคิวแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 100 วัน 12 ธ.ค. “จิรายุ” ติวเข้มโฆษกกระทรวง จี้ทุกหน่วยป้อนข่าวดีส่ง รบ.แถลงทุกสัปดาห์ “ชูศักดิ์” ฟุ้งรู้แต่แรกคำร้อง “ธีรยุทธ” ไปไม่ได้ หลัง อสส.ชี้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง ขอรอฟังดุลยพินิจศาล รธน.อีกครั้ง แย้มหากยกคำร้องคนใน พท.อยากให้ฟ้องกลับหยุดขบวนการนี้ ดาหน้าปัดตอบข่าว “ยิ่งลักษณ์” กลับไทยสงกรานต์ “ผบ.ทร.” พร้อมส่ง “จนท.อุทกศาสตร์-พระธรรมนูญ” ร่วมวงเจทีซีเจรจากัมพูชา เตรียมเปิดเสวนาปมร้อน MOU 44 สร้างความเข้าใจสังคม 3 ธ.ค.นี้ “สส.” แพ้โหวต กมธ.ร่วม พ.ร.บ.ประชามติ “สว.” 13 เสียงผนึกหนุนหลักเสียงข้างมาก 2 ชั้น ส่งกลับวงประชุมใหญ่พิจารณาต่อ ส่อแตกหักยื้ออีก 180 วัน
  • คปภ.เดินหน้าขับเคลื่อนภาคธุรกิจ พร้อมปรับเกณฑ์เอื้อประโยชน์ทั้งเอกชนและผู้เอาประกันภัย เช่น ดึง Copayment เข้ามาใช้เพื่อไม่ให้เบี้ยสูงจนประชาชนเข้าไม่ถึง เล็งกำกับโฮลดิ้ง บริษัทประกัน หวังช่วยมอนิเตอร์ไม่ให้ลงทุนเสี่ยงเกินไป ชี้ปี 2568 เบี้ยรวมธุรกิจใกล้แตะเป้าหมาย 1 ล้านล้านบาท คาดไม่เกินเอื้อม ปี 2569 เบี้ยชนเป้า 1 ล้านล้าน

 

หุ้นเด่นวันนี้

  • AMATA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 34.00 บาท มุมมองเชิงบวกจากโอกาสทำกำไรสูงสุดในปี 67 ที่ 2.48 พันล้านบาท จากยอดขายอัตรากำไรสูงและการเติบโตของรายได้สาธารณูปโภค ปรับประมาณการกำไรปี 68 เพิ่มเป็น 3.6 พันล้านบาท เติบโต 46% จากคาดการณ์การโอนยอดจองที่แข็งแกร่งกว่า 19.2 หมื่นล้านบาท และมีเงินมัดจำจากลูกค้าอีก 9.4 พันล้านบาทในงบดุล ขณะที่คาดยอดขายที่ดินปี 67 ทำได้ 2,500 ไร่ สะท้อนความต้องการย้ายฐานการผลิตมาไทยที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การนำ AMATA U ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าตลาดในปี 68 จะช่วยปลดล็อกมูลค่าเพิ่มเติม ปรับราคา NAV เพิ่มขึ้นจาก 33.5 บาท เป็น 34 บาท
  • OSP (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 26.25 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 จะกลับมาเติบโต QoQ, YoY หนุนจากรายได้กลุ่มเครื่องดื่มและ personal care ฟื้นตัวทั้งในและต่างประเทศช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้คาดมีกำไรขายโรงงานแก้วในเมียนมา 130 ล้านบาท ปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโต high single digit การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพทำให้รักษาระดับ GPM ได้ ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท -13%YoY และ 3.2 พันล้านบาท +54%YoY
  • BBIK (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 50 บาท กำไรไตรมาส 3/67 เดินหน้าทำ New High แล้ว เรายังคาดว่าแนวโน้มกำไร ไตรมาส 4/67 ยังคงมีโอกาสทำ New high ต่อเนื่อง แรงหนุนจากแนวโน้ม Digital transformation ทั่วโลก รวมถึงไทยที่กำลังเติบโตด้วยความเร่งมากขึ้น ผสานกับ Backlog ที่อยู่ในระดับทีดี รวมถึงอัตรกำไรขั้นต้นที่ได้ประโยชน์จาก Economies of scale

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top