นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้บริหาร Port of Long Beach ซึ่งเป็นท่าเรือของเอกชน ที่มีตู้สินค้าผ่านเข้า-ออกมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ได้มาหารือถึงโอกาสในการเพิ่มความร่วมมือ เพื่อเพิ่มปริมาณตู้สินค้าระหว่างไทยกับท่าเรือดังล่าว ซึ่งจะทำให้การส่งออกสินค้าจากไทยไปยังสหรัฐฯ ทำได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ Port of Long Beach เป็นท่าเรือที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน มีท่าเทียบเรือสำหรับขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ 6 ท่า ท่าสำหรับขนถ่ายน้ำมันดิบ 5 ท่า เครนยกตู้คอนเทนเนอร์ 72 เครน มีสินค้าผ่านเข้าออกคิดเป็นมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นท่าเรือที่มีตู้สินค้าผ่านเข้าออกมากเป็นอันดับ 9 ของโลก
“ได้หารือร่วมกับผู้บริหาร Port of Long Beach เพื่อมาขยายความร่วมมือ เพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าจากไทยมายังสหรัฐฯ ผ่านท่าเรือลองบีช และท่าเรือลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญอันดับ 1 ที่ไทยส่งสินค้ามายังสหรัฐอเมริกา ถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายการส่งออก ในสินค้ายุทธศาสตร์” นายวรวงศ์ กล่าว
ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้หารือร่วมกับทูตพาณิชย์ทวีปอเมริกา และลาตินอเมริกา ท่ามกลางปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ว่าจะทำอย่างไรในการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์รับสูงสุด และสามารถส่งสินค้ามายังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น ซึ่งได้ขอให้ทูตพาณิชย์ไปพิจารณาว่าจะมีสินค้าไทยรายการใดบ้าง ที่สามารถส่งมาทดแทนสินค้าจากจีนได้
ด้าน น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ได้เห็นโอกาสของสินค้าไทยที่สูงมาก โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากทิศทางนโยบายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มจะทำสงครามการค้ากับจีนอีกรอบ จึงอาจเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการไทย ในการผลิตสินค้าเพื่อทดแทนสินค้าจีนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศได้ทำงานเชิงรุก เพื่อให้ใกล้ชิดกับพาณิชย์จังหวัดในการเข้าถึงผู้ประกอบการในภูมิภาคได้มากขึ้น โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งจะช่วยสนับสนุน และเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้มากขึ้น
กระทรวงพาณิชย์ได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการโครงการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างท่าเรือกับจุดหมายปลายทาง เพื่อลดความแออัดในท่าเรือ และรองรับปริมาณการขนถ่ายตู้สินค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และโครงการในการพัฒนาให้ท่าเรือ Long Beach กลายเป็นท่า Zeero (Zero Emission, Energy Resilient Ops) รวมไปถึงขอทราบสถานการณ์การนำเข้าสินค้าของท่าเรือในฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศไทย และแนวทางการแก้ปัญหาและสถานการณ์ความแออัดของท่าเรือ เพื่อนำมาวางแผนในการส่งออกสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ต่อไป
ปัจจุบัน San Pedro Bay (Port of Long Beach & Port of Los Angeles) เป็น Port Complex ที่มีตู้สินค้าผ่านเข้าออกมากที่สุดของประเทศสหรัฐฯ และมากเป็นอันดับ 9 ของโลก โดยในปี 2566 มีปริมาณสินค้าเข้าออกรวม 16.6 ล้านตู้ (ขนาด 20 ฟุต) ในจำนวนนี้เป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทย 360,803 ตู้
โดยสินค้าที่นำเข้าจากไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ยางและผลิตภัณฑ์ 74,762 ตู้ 2.เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หม้อไอน้ำ 68,354 ตู้ 3.เครื่องจักรไฟฟ้า 55,324 ตู้ 4.เฟอร์นิเจอร์ 18,163 ตู้ และ 5.รถยนต์และส่วนประกอบ 14,728 ตู้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 67)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, วรวงศ์ รามางกูร, สงครามการค้า, สหรัฐ, สินค้านำเข้า