MINT บวกสวนตลาด รับแผนตั้งกอง REIT ใหญ่ถึง 1.2 พันล้านเหรียญฯ-มองหาโอกาสลงทุนเรือสำราญ

หุ้น MINT เด้งขึ้น 1.85% สวนทางภาพรวมตลาดเป็นลบเช้านี้ โดยราคาเพิ่มขึ้น 0.50 บาท มาที่ 27.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 172.20 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.09 น.จากราคาเปิด 27.75 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุด 28.00 บาท ราคาต่ำสุด 27.25 บาท

บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยข้อมูลแผนลดภาระหนี้ลง 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแนวทางหนึ่งคือการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ขนาด 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐภายใน 12-18 เดือนข้างหน้า ปลดล็อกกระแสเงินสด

พร้อมมีแผนลงทุนระยะยาวที่จะเพิ่มโรงแรมในเครือให้มากกว่า 780 แห่งและ สาขาร้านอาหารเป็นมากกว่า 3,700 สาขาภายในปี 69 จากสิ้นปี 66 มี 532 โรงแรมและ 2,645 สาขาร้านอาหาร รวมถึงมองหาโอกาสลงทุนในโมเดลธุรกิจใหม่แบรนด์ใหม่ ๆ ทั้งโรงแรมและแฟรนไชส์ การเปิดเบรนด์รอง และธุรกิจเรือสำราญ

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คงแนะ “ซื้อ” หุ้น MINT ให้ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 34.00 บาท อิง DCF (WACC ที่ 7%, terminal growth ที่ 2.5%) โดยมีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้

1) แผนการจัดตั้ง REIT จะช่วยลดความผันผวนได้หลายทาง (ลดหนี้, ลดความผันผวนของค่าเงิน และขยายกิจการได้อย่างต่อเนื่อง) โดยอยู่ระหว่างศึกษาว่าจะ Listing ที่ประเทศไทยหรือสิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นกอง REIT ในกลุ่ม Hospitality ที่มีมูลค่าขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียที่ราว 1.2-1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.2-5.3 หมื่นล้านบาท)

2) RevPAR เดือน ต.ค.67 ยังโต YoY ได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ยุโรปเพิ่มขึ้น +4-5% YoY และไทย +9-10% YoY 3) ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของกำไรที่ 15-20% CAGR (เราคาด 10%) โดยยังเน้นการปรับค่าห้องพัก (ADR) เพิ่มขึ้นในทุกประเทศ โดยที่ยุโรปจะมีการ Rebrand ราว 30 โรงแรม ภายในปี 67-69 ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ ADR จะเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 20%

เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 67 ที่ 7.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +6% YoY จากการฟื้นตัวในทุกประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยและยุโรป ขณะที่เราคาดว่าไตรมาส 4/67 จะโต YoY ได้ต่อเพราะเป็น High season ไทยและมัลดีฟส์เข้ามาช่วยหนุน รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงจากการทยอยคืนหนี้

ราคาหุ้นปรับลงมา -5% และ -6% ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET จากประเด็นเรื่องสเปน (สัดส่วนราว 30% ของรายได้โรงแรม NH) ที่ยังมีการประท้วงต่อต้านนักท่องเที่ยวมาตลอดตั้งแต่เดือน เม.ย.67 รวมถึงมีน้ำท่วมในสเปนเข้ามากดดันเพิ่มเติม ขณะที่ RevPAR ยังเติบโต YoY ได้ดี ด้าน valuation ถูกกว่ากลุ่มฯ ซื้อขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top