สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (19 พ.ย.) เนื่องนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและบานปลาย
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16.40 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 2,631.00 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.80 เซนต์ หรือ 0.12% ปิดที่ 31.262 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 978.60 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 29.10 ดอลลาร์ หรือ 2.89% ปิดที่ 1,037.30 ดอลลาร์/ออนซ์
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ลงนามในกฤษฎีกาอนุมัติหลักการใหม่สำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อรับมือกับการโจมตีพรมแดนเป็นวงกว้าง โดยใจความตอนหนึ่งของกฤษฎีการะบุว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อป้องปรามชาติศัตรูที่อนุญาตให้มีการใช้ดินแดนหรือทรัพยากรเพื่อการรุกรานรัสเซีย
ดาเนียล จาลี นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท TD Securities กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังจากปูตินลงนามในกฤษฎีกาเพื่อปรับเกณฑ์การใช้อาวุธนิวเคลียร์ ภายหลังจากที่ยูเครนได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลโจ ไบเดน ให้ใช้ระบบขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems หรือ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
รัสเซียเตือนว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลไบเดนถือเป็นการบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ ได้เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำสงครามกับรัสเซีย ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 63% ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 67)
Tags: COMEX, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง, ราคาทองคำ