BAM ตั้งงบซี้อหนี้ NPL เข้าพอร์ตปี 68 ราว 9 พันลบ. ใกล้เคียงปีนี้

นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ประเมินว่า ในปี 2568 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของระบบธนาคารพาณิชย์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนอัตราการเพิ่มขึ้นของ NPL จะมากน้อยระดับใดนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหารจัดการของแต่ละธนาคารในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพราะบางแห่งมีการตั้งสำรองไว้ในระดับสูง แต่บางแห่งก็ตั้งสำรองไม่มาก

โดยในปีหน้า BAM ตั้งเป้าวงเงินรับซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) เพื่อนำมาบริหารไว้ที่ราว 9,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีนี้ และตั้งเป้าขายสินทรัพย์ที่รอการขาย (NPA) อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดเก็บเงินสด จะอยู่ที่ราว 18,000 ล้านบาท จากเป้าปีนี้ซึ่งอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 นี้ ในส่วนของการรับซื้อหนี้มาบริหารเฉพาะของ BAM เอง (ไม่รวม JVAMC) คาดว่าจะอยู่ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลหนี้ราว 26,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ 9,000 ล้านบาท ถือว่าต่ำกว่าปี 66 ส่วนสาเหตุหนึ่งมาจากสถานการณ์ความไม่แน่นอน ซึ่งแม้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ BAM จะรับซื้อหนี้ได้ค่อนข้างมาก แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ได้ชะลอการซื้อหนี้มาบริหาร โดยมีการคัดเลือกพอร์ตมากขึ้น แต่ยังคงร่วมประมูล (Bid) เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับธนาคาร

ส่วนการขาย NPA ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ พบว่าสามารถขายได้ค่อนข้างดี ทั้งทรัพย์แปลงเล็ก และแปลงใหญ่ แต่จะเห็นว่าในช่วงในไตรมาสที่ 3/67 การขายเริ่มชะลอตัวลง แต่คาดว่าทั้งปีน่าจะขายทรัพย์ได้ใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่เงินปันผลของปีนี้ เชื่อว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นกัน

*อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุน AMC เพิ่มเติม

นายบัณฑิต ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในส่วนของบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ (JV AMC) กับธนาคารกสิกรไทย ภายใต้ชื่อ “อรุณ” ว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งคาดว่าจะได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยภายหลังได้รับไลเซ่นส์แล้ว บริษัทจะสามารถซื้อขายทรัพย์ และบริหารทรัพย์ได้ทันที

ส่วนบริษัทร่วมทุนกับธนาคารออมสิน ภายใต้ชื่อ บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด” (ARI-AMC) ได้รับใบอนุญาตแล้ว และเริ่มบริหารทรัพย์แล้ว ซึ่งมีทั้งหนี้ที่มีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน โดยที่ผ่านมา มีลูกหนี้ที่บริหารแล้ว 1 แสนราย และคาดว่าต้นปี 68 จะมีการโอนลูกหนี้เข้ามาเพิ่มอีก 4 แสนราย อย่างไรก็ดี ในการบริหารหนี้ช่วงต้นจะมีต้นทุนในการบริหาร แต่เชื่อว่าจะถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่าที่คาดไว้จากเดิม

นายบัณฑิต กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือในลักษณะบริษัทร่วมทุน หรือ JV AMC เพิ่มเติมนั้น ขณะนี้มีบางรายติดต่อเข้ามา และยังอยู่ระหว่างการหารือกัน ยังไม่ตกผลึก แต่ยอมรับว่าบุคลากรของ BAM มีจำกัด ซึ่งหากไม่ทันภายในสิ้นปีนี้ ก็ต้องงดไว้ก่อน

“ตอนนี้ยังคุยอยู่ เพียงแต่ประกาศ สนส. จะหมดสิ้นปีนี้ แล้วถ้า ธปท.ไม่ต่อ ซึ่งถ้าเราคุยอยู่ แล้วยังไม่ตกผลึก ก็คงต้องงดไว้ก่อน แต่ยังคุยอยู่ บางรายก็เพิ่งติดต่อเข้ามา ซึ่งเราได้บอกเงื่อนไขของเราไปว่าทรัพยากรบุคคลของเรามีจำกัด การที่เราจะส่งคนไปดู JV ไม่ใช่ว่าอยากจะทำ ก็ทำได้ เราต้องดูศักยภาพความพร้อมของคนของเราด้วย” นายบัณฑิต ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top