CDC เผยผู้ป่วยกว่า 100 รายในสหรัฐฯ ติดเชื้ออีโคไลจากแมคโดนัลด์

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ว่า มีผู้ป่วยรวม 104 รายใน 14 รัฐของสหรัฐฯ ติดเชื้ออีโคไล (E. coli) ซึ่งเชื่อมโยงกับเมนูแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ (Quarter Pounder) ของแมคโดนัลด์ (McDonald’s)

จากข้อมูลผู้ป่วย 98 ราย พบว่า 34 รายต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และมี 4 คนที่เกิดโรคกลุ่มอาการเม็ดเลือดแดงแตก-ยูรีเมีย (HUS) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่อาจทำให้ไตวายได้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ 1 รายในรัฐโคโลราโด

CDC ชี้ว่า หอมหัวใหญ่หั่นที่เสิร์ฟบนแฮมเบอร์เกอร์ Quarter Pounder และเมนูอื่น ๆ ของแมคโดนัลด์อาจเป็นแหล่งที่มาของการระบาดของเชื้ออีโคไลในสหรัฐฯ

ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA), กระทรวงเกษตรแห่งรัฐโคโลราโด และกระทรวงสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐโคโลราโด ได้เก็บตัวอย่างหอมหัวใหญ่และตัวอย่างสิ่งแวดล้อมจากร้านแมคโดนัลด์และศูนย์กระจายสินค้าแล้ว โดยขณะนี้หอมหัวใหญ่ที่ถูกเรียกคืนจาก FDA จำนวน 1 ตัวอย่างมีผลตรวจเชื้ออีโคไลเป็นบวก

แมคโดนัลด์ได้หยุดใช้หอมหัวใหญ่หั่นในเบอร์เกอร์ Quarter Pounder ในรัฐที่ได้รับผลกระทบแล้ว และเทย์เลอร์ ฟาร์ม (Taylor Farms) ได้เรียกคืนหอมหัวใหญ่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.

ทั้งนี้ CDC ระบุว่า เชื้ออีโคไลเป็นแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปในหลายแหล่ง เช่น สิ่งแวดล้อม อาหาร แหล่งน้ำ และในลำไส้ของคนและสัตว์ โดยทั่วไปแล้ว เชื้ออีโคไลส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายและเป็นส่วนหนึ่งของระบบลำไส้ที่ดีต่อสุขภาพ แต่บางชนิดอาจทำให้เกิดอาการป่วย เช่น ท้องเสีย การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ปอดบวม ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และโรคอื่น ๆ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top