หุ้น Swiggy เปิดเทรดวันแรกพุ่ง 15% รับเทรนด์ “Quick Commerce” ในอินเดีย

หุ้นสวิกกี้ (Swiggy) เปิดเทรดวันแรกในตลาดหุ้นอินเดียวันนี้ (13 พ.ย.) ทะยาน 15% สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อธุรกิจเดลิเวอรี หลังเทรนด์ช็อปปิงออนไลน์และบริการจัดส่งด่วนได้รับความนิยมพุ่งสูง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สวิกกี้สร้างปรากฏการณ์เทรดวันแรกพุ่งแรงสวนตลาดและเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ หลังบริษัทระดมทุนได้ 1.4 พันล้านดอลลาร์ในการทำ IPO ขึ้นแท่นหุ้น IPO ใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ของอินเดียในปีนี้

หุ้นสวิกกี้จดทะเบียนบนกระดานตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติอินเดีย (NSE) ที่ราคา 420 รูปี ก่อนพุ่งสูงถึง 448 รูปี ส่งผลให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

สวิกกี้ และคู่แข่งรายสำคัญอย่าง โซมาโต (Zomato) กำลังปฏิวัติวงการช็อปปิงในอินเดียด้วยบริการ “ควิกคอมเมิร์ซ” (Quick Commerce) ส่งของชำถึงหน้าบ้านภายใน 10 นาที ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจจากเดิมที่บริการส่งอาหารเป็นหลัก

ทั้งนี้ กระแสความนิยมของควิกคอมเมิร์ซส่งผลกระทบต่อรายได้ของซูเปอร์มาร์เก็ต และบังคับให้ผู้เล่นรายใหญ่ รวมถึงมูเกช อัมบานี มหาเศรษฐีอันดับ 1 แห่งเอเชีย ต้องรุกตลาดด้วยบริการจัดส่งด่วนผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกทั่วอินเดีย

อนันด์ กริปาลู กรรมการบริหารของสวิกกี้ กล่าวในพิธีเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติในมุมไบว่า บริการควิกคอมเมิร์ซ “อินสตามาร์ต” (Instamart) ของสวิกกี้นั้นเติบโตแบบก้าวกระโดด

โปรซัส (Prosus) บริษัทด้านการลงทุนเทคโนโลยีจากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือหุ้น 25% ในสวิกกี้ กล่าวเมื่อวันพุธว่า บริษัททำกำไรได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์จากการลงทุนในสวิกกี้ ขณะที่ซอฟต์แบงก์ (Softbank) ถือหุ้นประมาณ 8%

การเปิดตัวในตลาดหุ้นครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ทั้งสวิกกี้และโซมาโตกำลังถูกจับตามองด้านการผูกขาดตลาด โดยเฉพาะประเด็นการแข่งขันในธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องจากภาคค้าปลีกให้ตรวจสอบธุรกิจควิกคอมเมิร์ซว่าอาจมีการตั้งราคาขายต่ำกว่าทุนเพื่อทำลายคู่แข่ง

IPO สวิกกี้มียอดจองเกินกว่า 3 เท่าในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้กระแสตอบรับจากนักลงทุนสถาบันที่แห่จองซื้อในวันสุดท้าย ถึงกระนั้น สวิกกี้ก็ยังคงเทียบไม่ได้กับการเปิดตัวของโซมาโตในปี 2564 และราคาหุ้นพุ่งทะยานมากกว่า 3 เท่าตั้งแต่นั้นมา

แม้สวิกกี้จะลดยอดขาดทุนรายปีลง แต่ก็ยังไม่สามารถพลิกเป็นกำไรได้ ต่างจากคู่แข่งอย่างโซมาโตที่พลิกมามีกำไรแล้วในปีงบประมาณ 2567

“การขาดทุนอย่างต่อเนื่องของบริษัทประกอบกับสภาวะตลาดที่ท้าทาย อาจลดทอนความกระตือรือร้นของนักลงทุนในระยะยาว” ชิวานี นยาติ หัวหน้าฝ่ายความมั่งคั่งของสวัสติกะ อินเวสต์มาร์ต (Swastika Investmart) กล่าว

ด้านแมคควอรี แคปปิตอล (Macquarie Capital) คาดการณ์ยอดสั่งอาหารของสวิกกี้ในปี 2567-68 ว่าจะแตะระดับ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังตามหลังคู่แข่งอย่างโซมาโตอยู่ประมาณ 25%

ทั้งนี้ ตามการประเมินจากดาตัม อินเทลลิเจนซ์ (Datum Intelligence) บริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำ ภาคธุรกิจควิกคอมเมิร์ซในอินเดียกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยมูลค่ายอดขายรวมที่คาดว่าจะทะลุ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ โดยผู้นำตลาดอย่าง “บลิงกิต” (Blinkit) แพลตฟอร์มในเครือโซมาโต ครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 40% ตามมาด้วยสวิกกี้ที่ครองส่วนแบ่งราว 30%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top