TIDLOR พุ่งกว่า 8% หลังเปิดงบ Q3/67 กด NPL เหลือ 1.88% แม้กำไรต่ำกว่าโบรกคาด

TIDLOR พุ่ง 8.18% มาอยู่ที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 376.42 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.21 น. โดยเปิดตลาดที่ 16.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 17.40 บาท และปรับลงต่ำสุดที่ 16.50 บาท

บล.กสิกรไทย ระบุว่า บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) รายงานกำไรไตรมาส 3/67 ที่ 991 ลบ.ลดลง 9% QoQ และ 2% YoY ต่ำกว่าตลาดคาด 6% อัตราส่วนหนี้เสีย (NPL ratio) ทรงตัว 1.9% ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 2.0% อย่างงไรก็ตาม สินเชื่อด้อยคุณภาพ (ชั้นที่ 2) เพิ่มขึ้นเป็น 17.6% คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 22 บาท แม้เราจะเชื่อว่าประมาณการล่า สุดของเราอาจมี downside risk เล็กน้อย

ขณะที่ TIDLOR ชี้แจงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% (YoY) และรายได้รวมเพิ่มขึ้น 19.5% (YoY) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66 สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อ และการปรับตัวขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิตามกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงและสัดส่วนประเภทสินเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไป และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่สูงขึ้นจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจนายหน้าประกันภัย

ส่วนไตรมาส 3/67 รายได้รวมเติบโต 16.1% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 990.6 ล้านบาท โดยมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม ณ สิ้นไตรมาส 102,699.6 ล้านบาท เติบโต 11.8% (YoY) เป็นผลมาจากปริมาณการใช้งานบัตรติดล้อ และบริการโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อที่ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพสินเชื่อ โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL ratio) อยู่ที่ 1.88% ซึ่งอยู่ในกรอบที่วางไว้ไม่เกิน 2% ด้านอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio) ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 230.6%

ด้านธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยอดเบี้ยประกันวินาศภัยในไตรมาส 3 มีมูลค่า 2,376.7 ล้านบาท เติบโต 15.1% (YoY) เป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีนายหน้าประกัน (InsurTech Platform) ที่บริษัทสร้างและพัฒนามามากกว่า 10 ปี เพื่อใช้เป็นพื้นฐานขับเคลื่อนธุรกิจนายหน้าประกัน นำเสนอผลิตภัณฑ์และช่องทางที่ครอบคลุม และตรงกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี ภายใต้แบรนด์ “ประกันติดโล่” (ชื่อเดิม ประกันติดล้อ) ซึ่งปัจจุบันถือเป็นเบอร์ 1 ด้านการให้คำปรึกษาและเสนอขายประกันอย่างใกล้ชิด (Face to Face) ผ่านนายหน้าผู้เชี่ยวชาญกว่า 5,000 คน ในช่องทางสาขาเงินติดล้อ 1,747 แห่ง ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ เดือน ก.ย.67)

รวมทั้งแบรนด์ “อารีเกเตอร์” (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ผ่านสมาชิกนายหน้าประกัน (Partner) มากกว่า 9,000 คน ภายใต้คอนเซปต์ จริงใจ เข้าใจ เติบโตไปพร้อมกัน และ แบรนด์ “เฮ้กู๊ดดี้” (heygoody) แพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัล ที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อประกันด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับความคุ้มครองทันที โดยไม่จำเป็นต้องผ่านพนักงานขายทางโทรศัพท์ (Telesales)

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ TIDLOR กล่าวว่า บริษัทยังคงความสามารถในการทำกำไรที่ดี จากการปรับตัวขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นใจว่าจะสามารถควบคุม NPL ratio ให้ไม่เกิน 2% ตามกรอบที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบัน NPL ratio ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม พร้อมกับการตั้งสำรองในระดับที่แข็งแกร่ง ขณะที่คาดว่าในไตรมาสถัดไปปริมาณสินเชื่อใหม่และธุรกิจนายหน้าประกันภัยจะขยายตัวเพิ่มขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top