WHA รื้อใหญ่งบลงทุน 5 ปีจ่อจัดหนักอัดเพิ่มเต็มพิกัดรับดีมานด์ทะลักทั้งจีน-ดาต้าเซ็นเตอร์

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาปรับเพิ่มงบลงทุน 5 ปี (ปี 67-71) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 7.87 หมื่นล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการที่ดินนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากหลายธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาพูดคุย เพราะต้องการเข้ามาตั้งฐานการผลิตและศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ทำให้บริษัทต้องเตรียมการจัดหาที่ดินเข้ามารองรับเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐล่าสุด ทำให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ เริ่มเตรียมความพร้อมปรับตัวรองรับกับนโยบายด้านการค้าของสหรัฐที่อาจกลายเป็นความเสี่ยงของธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ยังมีฐานการผลิตอยู่ในจีน ทั้งนักธุรกิจจีนเองและธุรกิจของต่างชาติ เริ่มมองหาฐานการผลิตใหม่เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งประเทศที่จะได้รีบอานิสงส์ในการย้ายฐานการผลิตเข้ามา เป็นปัจจัยหนุนต่อธุรกิจของ WHA ด้วยเช่นกัน

ขณะที่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ที่เริ่มทยอยเข้ามาตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย เป็นสัญญาณบวกที่ดีว่าต่อไปจะเห็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีหลากหลายเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าด้านเทคฯทั้งรายเล็กและรายใหญ่ได้เข้ามาพูดคุยกับ WHA เพื่อหาพื้นที่สร้างดาต้าเซ็นเตอร์นับ 10 ราย โดยต้องการให้ WHA จัดหาที่ดิน และสร้างอาคาร คาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนในปี 68

นางสาวจรีพร กล่าวว่า แนวโน้มของธุรกิจ WHA ในไตรมาส 4/67 โดยปกติจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดอยู่แล้ว คาดว่าจะมีการโอนที่ดินเข้ามามากขึ้น ประกอบกับการขายพื้นที่เช่า จำนวน 10 ยูนิต ใน 4 โครงการ พื้นที่รวม 40,172 ตาราเงมตร เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล (WHAIR) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 4/67 ทำให้บริษัทจะมีกำไรพิเศษเข้ามาหนุนผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อีกทั้งการที่อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง ทำให้ต้นทุนการเงินลดลงด้วยเช่นเดียวกันส่งผลดีต่อกำไร

นอกจากนี้ แนวโน้มของผลการดำเนินงานยังน่าจะดีต่อเนื่องไปถึงช่วงไตรมาส 1/68 จากการที่เริ่มรับรู้รายได้จากการจัดหาที่ดินให้กับ Google ในการตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ และในปีหน้าคาดว่าจะไม่มีการรับรู้การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามากดดันต่อผลการดำเนินงานของ WHA เหมือนกับในช่วงไตรมาส 3/67 ที่ผ่านมา

ส่วนความกังวลการที่จะมีผู้ประกอบการจากจีนเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยมากเกินไปจนอาจมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยนั้น นางสาวจรีพร มองว่า ภาคธุรกิจไทยต้องมีการปรับตัว ควรมองธุรกิจจากจีนจากสถานะคู่แข่งให้เป็นพันธมิตรแทน ผ่านความร่วมมือในรูปแบบ Joint Venture (JV) เพราะธุรกิจจากจีนต้องการมีความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจถูกกีดกันทางการค้าและอาจเปิดทางให้พันธมิตรท้องถิ่นถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าเพื่อลดความเป็นธุรกิจจีน

“เป็นโอกาสของภาคธุรกิจไทยในการหาพันธมิตรที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมต่อยอดธุรกิจ แต่จะต้องมีความ Active และขยันมากขึ้น เพื่อทำให้สามารถดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรที่มาจากจีนได้ แต่ในส่วนของ WHA จะต้องวางตัวเป็นกลางในการที่ช่วยทุกฝ่ายในการจัดหาที่ดิน อาคารคลังสินค้าต่างๆรองรับการลงทุน” นางสาวจรีพร กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top