เคปเลอร์ (Kpler) ผู้ให้บริการข้อมูลติดตามการขนส่ง เปิดเผยเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ว่า การส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ไปยังจีนดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค. จากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2564 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตยังคงไม่แน่นอน
ข้อมูลระบุว่า ในเดือนส.ค. จีนนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ เพียง 24,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 ก่อนที่การนำเข้าจะปรับตัวขึ้นเป็นประมาณ 134,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 130,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค. อย่างไรก็ดี แม้จะมีการฟื้นตัว แต่ก็ยังต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยที่ 259,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2566 อยู่ถึงครึ่งหนึ่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อุปสงค์ที่ลดลงจากจีนส่งผลให้การส่งออกโดยรวมของสหรัฐฯ ไปยังเอเชียลดลงด้วย โดยลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 955,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค.
แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์ของเคปเลอร์ กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอส่งผลให้การผลิตของโรงกลั่นลดลงและความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นลดลง
การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนโดยรวมลดลง 9% ในเดือนต.ค. ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจากการปิดโรงกลั่นน้ำมันของรัฐ และอุปสงค์ของโรงกลั่นเอกชนลดลง
นอกจากนี้ จีนยังเพิ่มการซื้อน้ำมันดิบในราคาที่ถูกกว่าจากประเทศต่าง ๆ เช่น รัสเซีย อิหร่าน และเวเนซุเอลา ซึ่งถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร โดยประเทศเหล่านี้คิดเป็นประมาณ 30% ของปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดของจีนในเดือนต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 67)
Tags: จีน, น้ำมันดิบ, ส่งออกน้ำมัน, สหรัฐ, เคปเลอร์