JAS บวก 6.72% มาอยู่ที่ 2.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท มูลค่าซื้อขาย 328.29 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.12 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.54 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.58 บาท และปรับลงต่ำสุดที่ 2.50 บาท
MONO บวก 3.41% มาอยู่ที่ 1.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 44.31 ล้านบาท
ADVANC บวก 1.05% มาอยู่ที่ 288.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 248.00 ล้านบาท
TRUE ยังบวกได้ 0.83% มาอยู่ที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 25.24 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ประกาศคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ
สำหรับประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ในทุกช่องทางถ่ายทอดสด (อินเตอร์เน็ต ทีวี, ดิจิทัล ทีวี, ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวีไอพีทีวีและ OTT) 3-6 ฤดูกาล (แล้วแต่วันยืนยันข้อตกลงระหว่าง JAS กับเจ้าของลิขสิทธ์) มีผลตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26
กรณี 3 ฤดูกาล มูลค่าลิขสิทธิ์จะอยู่ราว 197.7 ล้านเหรียญฯ ถือว่าไม่แพงหากเทียบราคาประมูลรายการดังกล่าวของไทยที่มีการเปิดเผยล่าสุดที่ 300 ล้านเหรียญ (ฤดูกาล 2016/17-2018/19)
ส่วน 6 ฤดูกาล (JAS ต้องยืนยันข้อตกลงก่อน 1 ธ.ค.) จะอยู่ราว 560 ล้านเหรียญฯ โดยการจ่ายค่าลิขสิทธ์จะอยู่ในลักษณะการทยอยจ่าย (ยังไม่มีรายละเอียด) JAS คาดใช้เงินสดและการก่อหนี้รองรับการลงทุน แม้เฉพาะค่าลิขสิทธิ์เราประเมิน ฐานะการเงิน JAS ปัจจุบันรองรับได้สิ้นสุด Q2/67 หากอิง
1. เงินสดในมือ 4.7 พันล้านบาท
2. เงินที่จะได้รับจากการขายหุ้นทุนซื้อคืนหุ้นละ 3.5 บาท 300.7 ล้านหุ้น (ระหว่างวันที่ 24 ต.ค.67 -24 มี.ค.68) ราว 1.0 พันล้านบาท
3. สถานะเป็น Net Cash เพราะแม้ JAS มีหนี้สินรวม 4.4 พันล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย 736 ล้านบาท ขณะที่ฐานทุนสูง 1.07 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี ยังต้องติดามรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเงื่อนไขการชำระค่าลิขสิทธิ์และต้นทุนอื่นๆ
เชิงกลยุทธ์ เรามองข้อตกลงดังกล่าว บวกต่อ JAS, MONO และ ADVANC ส่วน TRUE ที่เสียลิขสิทธิ์มองเป็นกลาง
– JAS ปัจจุบันหลังขายธุรกิจอินเตอร์เนตเหลือรายได้ปีละ 4.0 +/- พันล้านบาท จะเป็นการหนุนธุรกิจอินเตอร์เนต ทีวีของ JAS ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ธุรกิจหลักที่มีอยู่ในปัจจุบัน (บริการ IPTV ภายใต้แบรนด์ 3BB GIGATV) ปัจจุบันมีลูกค้าราว 7.0 แสนราย (11% ของรายได้ Q2/67) ส่วนรายได้หลัก JAS ปัจจุบัน 64% ของรายได้มาจากธุรกิจให้เช่าโครงข่ายในและนอกประเทศและการขุด Bitcoin แนะนำเก็งกำไร
วางกรอบลงทุนทางเทคนิค แนวรับ (2.36/2.32) แนวต้าน (2.45/2.6) Stop Loss (2.26)
– MONO มีฐานรายได้ปัจจุบันราวปีละ 2.0 +/- พันล้านบาท ในฐานะเจ้าของช่อง ดิจิทัล ทีวี Mono 29 ที่น่าจะมีรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น และการขายแพ็คเกจผ่าน OTT Platform Monomax ซึ่งมีสมาชิกราว 8.6 แสนราย แนะนำ “เก็งกำไร” วางกรอบลงทุนทางเทคนิค แนวรับ (1.7/1.66) แนวต้าน (1.84/1.94) Stop Loss (1.58)
– ADVANC คาดว่าจะได้ประโยชน์ในฐานะที่ยังเป็นพันธมิตรกับ JAS ที่น่าจะมีโอกาสนำคอนเท้นท์ยอดนิยมไปให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ถือว่าลดความเสี่ยงคู่แข่งขันที่จะเข้ามาร่วมประมูลคลื่นในอนาคตด้วย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 305 บาท
– TRUE มองผลกระทบจำกัด รายได้ธุรกิจ Pay TV ปัจจุบันราว 4-5% ของรายได้รวม (ลูกค้า EPL คาดต่ำกว่านั้น) ขณะที่มีภาพบวกคู่แข่งประมูลคลื่นลดลงช่วยชดเชย แต่ควรรอหุ้นซึมซับจิตวิทยาลบก่อนสะสมใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 67)
Tags: ADVANC, JAS, จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล, พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ