DSI บุกเรือนจำแจ้งเพิ่ม 3 ข้อหา 18 บอสดิไอคอน ผิดแชร์ลูกโซ่และขายตรง

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษในสังกัด เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมอยู่ทั้ง 18 คน และในฐานะผู้แทนนิติบุคคลอีก 1 ราย ในความผิดฐาน

1.ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2.ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น

3.ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทั้งนี้ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 70/2567 ของกองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กรณีดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก รวม 19 ราย ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มาทำการสืบสวนและสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 เป็นคดีพิเศษที่ 119/2567 และมีผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย เป็นนิติบุคคล 1 ราย คือบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารบริษัทฯ อีก 18 คน ถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลางนั้น

ภายหลังรับสำนวนการสอบสวนมาดำเนินการแล้วได้มีการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วพบพยานหลักฐานที่เข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายดังกล่าวและเห็นว่าพฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมดมีการร่วมกันกระทำการในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ประกอบด้วยทีมบริหาร แม่ทีมบรรยายชักชวนร่วมลงทุน และทีมผู้มีชื่อเสียงที่สร้างตัวตนให้เห็นถึงความร่ำรวยจากการประกอบธุรกิจ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวกับผู้ต้องหาทั้งหมด

โดยหลังจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะให้โอกาสผู้ต้องหาทั้ง 19 คน (รวมนิติบุคคล) นำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย หากประสงค์ยื่นคำให้การเป็นเอกสารหรือยื่นพยานหลักฐานประกอบการแก้ข้อกล่าวหาให้รวบรวมหลักฐานให้แล้วเสร็จเสนอมายังคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษภายใน 15 วัน นับแต่รับทราบข้อกล่าวหาเพื่อพิจารณาต่อไป เว้นแต่มีเหตุอันมิอาจก้าวล่วงได้ กรณีที่อ้างพยานบุคคลเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอให้สอบข้อเท็จจริงและจัดทำบัญชีพยานบุคคลโดยต้องระบุข้อมูลของพยานแต่ละคนเพื่อสำหรับทำบัญชีพยานและประเด็นที่จะใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วย ทั้งนี้จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบการแจ้งข้อกล่าวหาและติดตามผลการดำเนินคดีตามที่มีการมอบหมายงานไว้แล้วต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top