เงินบาทเปิด 34.31 อ่อนค่าตามภูมิภาค กังวลนโยบายกีดกันทางการค้าสหรัฐ-จับตาเลือกปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.31 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยตลาดกังวลเรื่องนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ออกมานั้นยังไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากตลาดได้มากนัก

ส่วนปัจจัยในประเทศต้องรอดูทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ (Flow) และความคืบหน้าการคัดเลือกประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย

“บาทปรับตัวอ่อนค่าตามทิศทางตลาดโลก วันนี้คาดว่าบาทจะแกว่งตัวไปตามราคาทองและบอนด์ยีลด์” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.20 – 34.45 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 152.95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 152.62 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0717 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0775 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 34.047 บาท/ดอลลาร์
  • จับตาการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วันนี้
  • ฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาลไทย (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating-IDR) ไว้ที่ BBB+ และแนวโน้มมีเสถียรภาพ
  • “คลัง” ปลื้ม Fitch Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ BBB+ มองเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.6% ก่อนขยับแตะ 3.1% ในปี 2568 รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น การันตีภาคการคลังยังแกร่ง จับตาความผันผวนทางการเมือง หวั่นกระทบนโยบายเศรษฐกิจ
  • ‘พิชัย’ โชว์ตัวเลขส่งออกข้าว คาดทั้งปีทะลุ 9 ล้านตัน โกยรายได้ 230,000 ล้านบาท ไทยลุ้นชิงส่งออกเพิ่ม 8 แสนตัน หลังบังกลาเทศลดภาษี
  • จีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงานเมื่อวันเสาร์ (9 พ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอลงหลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า CPI เดือนต.ค.อาจจะทรงตัวเท่ากับในเดือนก.ย.
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เผยแพร่สรุปการประชุมนโยบายเดือนต.ค.ในวันนี้ (11 พ.ย.) โดยคณะกรรมการ BOJ มีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งกรรมการบางรายเตือนว่าการขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจทำให้ตลาดการเงินกลับมาผันผวนได้
  • ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนในช่วงต้นเดือนพ.ย. และการคาดการณ์อนาคตของภาคครัวเรือนนั้นปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี นำโดยการคาดการณ์แนวโน้มที่สดใสของบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกัน
  • ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 80,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในช่วงเช้าวันนี้ (11 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองบวกที่ว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
  • นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าพรรครีพับลิกันจะมีคะแนนนำเล็กน้อยในสภาผู้แทนฯ หลังจากได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว ซึ่งจะทำให้รัฐบาลทรัมป์สามารถออกกฎหมายได้ง่ายขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 พ.ย. 67)

Tags: ,
Back to Top