นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหาร ทูตพาณิชย์ และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อติดตามนโยบายและขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลว่า ได้ประชุมติดตามนโยบายและขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นโยบายของกระทรวงฯ สอดคล้องกับรัฐบาล ทั้งภารกิจในประเทศและต่างประเทศ พร้อมสั่งการให้ทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดทำงานร่วมกัน เพื่อเร่งหาโอกาสด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนให้กับประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการเตรีนมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงผู้นำสหรัฐฯ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 หากไทยวางท่าทีที่เป็นกลาง และเป็นมิตรกับทุกประเทศอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ จีน รัสเซีย ยุโรป ตะวันออกกลาง ฯลฯ จะเป็นประโยชน์มาก เพราะทุกประเทศต้องการทำการค้าและลงทุนด้วย และเชื่อว่า ไทยจะเพิ่มการส่งออกไปสหรัฐฯ ได้ หากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนที่ดำเนินอยู่แล้วจะรุนแรงขึ้น เพราะสหรัฐฯ จะนำเข้าสินค้าจากไทยทดแทนการนำเข้าจากจีน และเพื่อประโยชน์ต่อการส่งออก อยากเห็นค่าเงินบาทอยู่ที่ 36-37 บาท/ดอลลาร์
“เรื่องการลงทุนเราต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ว่าใครจะมีความขัดแย้ง แต่เราจะหาโอกาสที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งขณะนี้จะเห็นการลงทุนจากสหรัฐฯ เข้ามามากขึ้น บริษัทขนาดใหญ่ขยายการลงทุนด้านฮาร์ดดิสก์ อาทิ Seagate, Western Digital และวันที่ 25-27 พ.ย.นี้ คณะนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียนจะมาไทยอีก เชื่อว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์เต็มที่” นายพิชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่นายทรัมป์ มีนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ ที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ 10-20% และไทยอาจตกเป็นเป้าหมาย เพราะไทยได้ดุลการค้าสหรัฐฯมาอย่างต่อเนื่องนั้น นายพิชัย กล่าวว่า โดยพื้นฐานของคนอเมริกันจะให้ประโยชน์กับคนที่ให้ประโยชน์กับเขา ถ้าเรามีประโยชน์แลกเปลี่ยนกันก็ไม่น่ามีปัญหา และเขาก็ไม่น่าจะติดใจอะไร หากการได้ดุลการค้าของไทยมาจากการส่งออกสินค้าที่ลงทุนโดยนักลงทุนสหรัฐฯ ในไทย สหรัฐฯ ก็จะไม่บล็อกเรา โดยสิ่งที่เราแลกกับสหรัฐฯ ขณะนี้ น่าจะเป็นเรื่องการที่ไทยเปิดกว้างรับการลงทุนจากสหรัฐฯ และให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนสหรัฐฯ อย่างเต็มที่
ส่วนเรื่องที่สินค้าจีนอาจส่งออกไปสหรัฐฯ ไม่ได้และจะหันมาถล่มส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทยด้วยนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ไทยมีคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรี และมีตนเป็นประธานอยู่แล้ว จึงไม่น่าห่วง เพราะคณะกรรมการชุดนี้กำลังทำงานอย่างเข้มข้นในการป้องกัน และแก้ไขปัญหานี้
“การเปลี่ยนแปลงประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ผมอยากให้มองในแง่ดี ไม่อยากให้มองแง่ลบ และมองว่า ไทยจะได้ประโยชน์มากจากการย้ายฐานการผลิต การส่งออกสินค้าไปทดแทนจีน โดยกลุ่มสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์จากการส่งออกทดแทนจีน เช่น อาหาร อารหารแปรรูป เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานผลิต เช่น กลุ่มสินค้าไฮเทค เป็นต้น และมองว่า การส่งออกของไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาจขยายตัวได้ถึง 4-5% หากกลุ่มที่ย้ายผลิตมาไทย เริ่มส่งออกได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ 4-5% ต่อปีเช่นกัน” นายพิชัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 67)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, การค้าการลงทุน, ทูตพาณิชย์, พิชัย นริพทะพันธุ์, โดนัลด์ ทรัมป์