เลือกตั้งสหรัฐฯ: “รีพับลิกัน” คว้าชัยวุฒิสภาสหรัฐฯ จ่อกุมอำนาจทั้ง 2 สภา

พรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสภาที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนียและโอไฮโอในวันอังคาร (5 พ.ย.) ส่งผลให้พรรคของโดนัลด์ ทรัมป์ มั่นใจได้ว่าจะได้ควบคุมสภาคองเกรสอย่างน้อยหนึ่งสภาในปีหน้า

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังมีคะแนนนำในช่วงแรกของการนับคะแนน ขณะที่พวกเขาพยายามรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้

ผลการเลือกตั้งในวันอังคารนี้ส่งผลให้พรรครีพับลิกันมีอำนาจในทั้งสองกรณี คือ หากทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี พวกเขาจะสามารถช่วยทรัมป์แต่งตั้งผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยมและข้าราชการระดับสูงได้ แต่หากคามาลา แฮร์ริส ชนะ พวกเขาก็มีอำนาจขัดขวางนโยบายต่าง ๆ ของเธอได้

ผลการนับคะแนนเบื้องต้นชี้ว่า จิม จัสติส จากพรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะในการชิงที่นั่งว่างในวุฒิสภาที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย โดยเขาจะเข้าไปนั่งในตำแหน่งที่เคยเป็นของโจ แมนชิน อดีตสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ผันตัวมาเป็นอิสระ

ส่วนที่รัฐโอไฮโอ เบอร์นี โมรีโน จากพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มจะเอาชนะเชอร์รอด บราวน์ ผู้สมัครพรรคเดโมแครตที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งอยู่เดิม

ชัยชนะทั้งสองที่นี้ทำให้พรรครีพับลิกันมีที่นั่งในวุฒิสภามากกว่าฝ่ายตรงข้าม โดยนำ 51 ต่อ 49 เสียง และยังมีโอกาสได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นอีก เมื่อผลการนับคะแนนในเขตที่มีการแข่งขันสูงทยอยออกมา

นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังชนะการเลือกตั้งในหลายเขต ซึ่งอาจทำให้พวกเขาขยายเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ ให้มากกว่าสัดส่วนปัจจุบันที่มีอยู่ 220 ต่อ 212 เสียง อย่างไรก็ตาม คงต้องรออีกหลายวันกว่าจะทราบผลสรุปสุดท้าย

พรรครีพับลิกันประสบความสำเร็จในการช่วงชิงพื้นที่เขตเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนียที่เคยเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต โดยเฉพาะในเมืองสแครนตัน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน นอกจากนี้ พวกเขายังได้ที่นั่งเพิ่มในรัฐนอร์ทแคโรไลนา หลังจากที่พรรครีพับลิกันได้จัดการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ให้เอื้อประโยชน์ต่อพรรคตัวเอง

ในสถานการณ์นี้ พรรคเดโมแครตต้องพลิกชนะให้ได้เพิ่มอีกอย่างน้อย 6 ที่นั่ง จึงจะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 435 คน

ส่วนที่รัฐเดลาแวร์ มีเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้น เมื่อซาราห์ แมคไบรด์ จากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งสส. นับเป็นสมาชิกสภาคองเกรสคนแรกที่เป็นบุคคลข้ามเพศ

ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งในสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ชัดเจน นักวิเคราะห์มองว่าพรรคเดโมแครตยังมีโอกาสชนะที่นั่งได้มากพอที่จะคุมเสียงข้างมากในสภาฯ แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่การเลือกตั้งแบบถล่มทลาย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2553 และ 2561 ที่ทำให้อำนาจเปลี่ยนมือแบบขาดลอย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top