ไช่ หมิงเอี้ยน ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSB) ของไต้หวัน แสดงความมั่นใจว่า สหรัฐอเมริกาจะยังคงความเป็นมิตรกับไต้หวันต่อไปหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะเดียวกัน ไต้หวันจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้จีน “ก่อปัญหา” ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลสหรัฐฯ
“ในด้านความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวัน เราเชื่อว่าสหรัฐฯ จะยังคงใช้แนวทางปัจจุบันในการจำกัดอิทธิพลของจีนและเป็นมิตรกับไต้หวันต่อไป” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
ไช่กล่าวเสริมว่า ไต้หวันจะยังคงสื่อสารกับรัฐบาลชุดปัจจุบันของสหรัฐฯ โดยเน้นเรื่องความร่วมมือในระยะต่อไป ขณะเดียวกันก็จะทำงานร่วมกับพันธมิตรนานาประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเจตนาและความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลสหรัฐฯ
“เราต้องป้องกันไม่ให้คอมมิวนิสต์จีนใช้ประโยชน์จากช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลสหรัฐฯ และป้องกันไม่ให้จีนสร้างปัญหาในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้” เขากล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กัว จื้อฮุย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ และเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีไม่ว่าใครจะชนะก็ตาม
เขากล่าวเสริมว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ มีความลึกซึ้งและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ พร้อมกับแสดงความมั่นใจว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจะมีเพียงเล็กน้อยไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปก็ตาม
อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงปลายเดือนต.ค. โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความไม่พอใจที่มีต่อไต้หวัน โดยจวกไต้หวันว่าขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา พร้อมประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีชิปจากไต้หวันหากได้รับเลือกเป็นปธน.สหรัฐฯ ซึ่งการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้นำระดับโลกด้านการผลิตชิปอย่างบริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) ซึ่งมีลูกค้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอินวิเดีย (Nvidia) และแอปเปิ้ล (Apple)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 67)
Tags: ไต้หวัน