เยนอาจร่วงแตะ 160 เยน/ดอลลาร์ หาก “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

นักลงทุนและนักวิเคราะห์คาดการณ์ผลกระทบของการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่มีต่อสินทรัพย์ของญี่ปุ่นว่า หาก คามาลา แฮร์ริส ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินเยนของญี่ปุ่นที่กำลังอ่อนแอ ขณะที่หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ก็อาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้นโตเกียวแต่เพิ่มความเสี่ยงที่เงินเยนจะอ่อนค่าลงมากขึ้น

นอกจากนี้ พวกเขาเตือนว่า หากผลการเลือกตั้งมีข้อโต้แย้ง ก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดความผันผวนเพิ่มขึ้นในตลาด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดญี่ปุ่นจะถูกจับตาเป็นพิเศษขณะที่มีการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งในสหรัฐฯ เนื่องจากตลาดญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง และนักลงทุนจะให้ความสนใจอย่างมากกับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับสกุลเงินเยนในช่วงการซื้อขายที่ตลาดเอเชีย

ถ้าแฮร์ริสชนะเลือกตั้ง เธอมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเดิม ๆ โดยมุ่งให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) ซึ่งหากไม่เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็จะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งก็จะทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น เมื่อช่องว่างอัตราผลตอบแทนของญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ หดแคบลง

ในทางตรงกันข้าม หากทรัมป์ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดี อาจช่วยผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างน้อยในระยะสั้น เนื่องจากเขาเรียกร้องให้มีการปรับลดภาษีและลดกฎระเบียบทางธุรกิจ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ส่งออกญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็จะสนับสนุนการซื้อดอลลาร์สหรัฐ

แต่แผนการของทรัมป์ที่จะเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่จากหุ้นส่วนการค้านั้นนับเป็นความเสี่ยงต่อหุ้นของญี่ปุ่น ขณะที่ผลการเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสก็นับเป็นปัจจัยที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งด้วย

ยูจิโระ โกโตะ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนของโนมูระ ซีเคียวริตีส์ ระบุว่า “ถ้าแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง ตลาดจะตอบสนองด้วยอัตราผลตอบแทนที่ลดลงและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ-เยนอาจทดสอบระดับ 150 เยน”

“หากพรรครีพับลิกันชนะทั้งสองสภา ดอลลาร์สหรัฐ-เยนอาจทดสอบเหนือระดับ 155 เยน และจะมีการจับตามองว่า ทางการญี่ปุ่นจะดำเนินการแทรกแซงด้วยวาจาหรือไม่” โกโตะกล่าว

ส่วนนักกลยุทธ์จากเครดิต อะกริกอล และธนาคารมิซูโฮคาดการณ์ว่า เยนอาจร่วงลงแตะ 160 เยนต่อดอลลาร์ หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปีที่เข้าทดสอบในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top