พลิกปวศ.บอตสวานา ฝ่ายค้านเลือกตั้งชนะพรรครัฐบาล ปิดฉากการครองอำนาจ 58 ปี

ประธานาธิบดีมูเควตซี มาซีซี แห่งบอตสวานา ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ในวันนี้ (1 พ.ย.) หลังจากผลคะแนนเบื้องต้นชี้ชัดว่าพรรคของเขาสูญเสียที่นั่งในสภาอย่างมโหฬารในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นการสิ้นสุดการครองอำนาจที่ยาวนานถึงเกือบ 6 ทศวรรษ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อนับคะแนนไปแล้วกว่าครึ่งของเขตเลือกตั้งทั้งหมด พบว่าพรรคร่มเพื่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย (Umbrella for Democratic Change: UDC) ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน มีคะแนนนำอย่างชัดเจน ส่งผลให้ดูมา โบโก ทนายความผู้นำพรรค UDC มีโอกาสสูงที่จะได้เป็นปธน.คนต่อไป

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมที่สะสมมานาน โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ เป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปไตยบอตสวานา (Botswana Democratic Party: BDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ปกครองประเทศเล็ก ๆ ในแอฟริกาใต้แห่งนี้มาตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2509

ทั้งนี้ บอตสวานาพึ่งพารายได้จากเพชรเป็นหลัก แต่เมื่อตลาดเพชรโลกซบเซา ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดหนักในปีนี้ ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งสูงถึง 28%

สถานีโทรทัศน์ของรัฐรายงานว่า จากผลการนับคะแนน 41 เขตจากทั้งหมด 61 เขต พรรคฝ่ายค้าน UDC ได้ที่นั่งในสภา 26 ที่นั่ง ขณะที่พรรครัฐบาล BDP ได้เพียง 3 ที่นั่ง โดยสมาชิกรัฐสภาเหล่านี้จะเป็นผู้เลือกว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป

ด้านโบโก ซึ่งหาเสียงด้วยนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและเพิ่มสวัสดิการสังคม ยังไม่ได้ออกมาแถลงหลังทราบผลการเลือกตั้ง

“แม้ผมอยากจะอยู่ทำหน้าที่เป็นปธน.ของพวกท่านต่อไป แต่ผมเคารพในเจตนารมณ์ของประชาชน และขอแสดงความยินดีกับว่าที่ปธน. ผมจะก้าวลงจากตำแหน่งและพร้อมสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่” ปธน.มาซีซีกล่าวในการแถลงข่าว

ทั้งนี้ BDP กลายเป็นพรรคการเมืองที่ครองอำนาจยาวนานพรรคที่สองในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ พรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา (ANC) ของแอฟริกาใต้ก็สูญเสียเสียงข้างมากในสภาไปเช่นกันหลังครองอำนาจมา 30 ปี จนต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้น

เซย์นาบ ฮูเซน นักวิเคราะห์ด้านแอฟริกาจากแพนเจีย-ริสก์ (Pangea-Risk) ให้ความเห็นว่า “ผลการเลือกตั้งของบอตสวานาควรเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับพรรคการเมืองที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน ทั้งในแอฟริกาตอนใต้และในภูมิภาคอื่น ๆ ว่า หากไม่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและโอกาสในการจ้างงาน อำนาจทางการเมืองย่อมสั่นคลอน”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 พ.ย. 67)

Tags: ,
Back to Top