พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) พร้อมด้วยพรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ต.ค.) นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ซึ่งตอนนี้ต้องหาเสียงสนับสนุนจากพรรคอื่นนอกเหนือจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เพื่อให้สามารถบริหารประเทศได้อย่างมั่นคง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานในวันนี้ (28 ต.ค.) ว่า ฝ่ายรัฐบาลได้ที่นั่งในสภาเพียง 215 จากทั้งหมด 465 ที่นั่ง ลดลงอย่างมากจากเดิมที่เคยมี 288 ที่นั่ง ทำให้ไม่สามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาไว้ได้ตามเป้าหมาย
ผลการเลือกตั้งที่ย่ำแย่นี้สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่ไว้วางใจพรรค LDP มากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากคดีอื้อฉาวเรื่องเงินทุนสำหรับให้สินบน (slush fund) ถือเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของฐานเสียงที่เคยช่วยให้พรรคกลับมามีอำนาจในปี 2555 หลังจากที่ต้องเป็นฝ่ายค้านมาระยะหนึ่ง
ขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปไตยแห่งรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น (CDPJ) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก สามารถคว้าที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดิม 98 ที่นั่ง เป็น 148 ที่นั่ง โดยเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่แทนพรรครัฐบาลที่ถูกมองว่ามีปัญหาเรื่อง “เงินใต้โต๊ะ”
โยชิฮิโกะ โนดะ หัวหน้าพรรค CDPJ กล่าวว่า “ประชาชนเลือกพรรคที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสมที่สุดในการผลักดันการปฏิรูปทางการเมือง นั่นคือเหตุผลที่เราได้รับเสียงสนับสนุนมากมายขนาดนี้”
ด้านเคอิจิ อิชิอิ หัวหน้าพรรคโคเมอิโตะ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว พ่ายแพ้การเลือกตั้ง นับเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลคนแรกที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งนับตั้งแต่ปี 2552
พรรคโคเมอิโตะ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรพุทธศาสนา “สมาคมสร้างคุณค่า” (Soka Gakkai) ได้ที่นั่งเพียง 24 ที่นั่ง ลดลงจากเดิมที่มี 32 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อน
รัฐมนตรีหลายคนพ่ายแพ้การเลือกตั้ง โดยรัฐมนตรีเกษตรยาสุฮิโระ โอซาโตะ แพ้ให้กับคู่แข่งจากพรรคฝ่ายค้าน ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ฮิเดกิ มากิฮาระ ก็เสียที่นั่งเช่นกัน
นักวิเคราะห์การเมืองคาดการณ์ว่า พรรค LDP อาจรับอดีตสมาชิกพรรคที่เคยถูกตัดสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีส่วนพัวพันกับปัญหาการรายงานรายได้จากการระดมทุนต่ำกว่าความเป็นจริง กลับเข้าพรรคอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฮาคุบุน ชิโมมุระ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงอดีตสมาชิกพรรค LDP ประมาณครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดราว 10 คนที่ถูกตัดสิทธิ์ ต่างพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ โดยผู้สมัครทั้งหมดที่ถูกบังคับให้ลงสมัครแบบอิสระนั้นล้วนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในพรรค LDP แม้จะลงจากตำแหน่งผู้นำพรรคไปแล้วตั้งแต่ปี 2563
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมคือการจับมือกับพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ซึ่งได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าเป็น 28 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม ยูอิจิโระ ทามากิ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ได้ปฏิเสธแนวคิดที่จะเข้าร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล ในขณะที่พรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอีกพรรคหนึ่ง ก็แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยที่จะร่วมงานกับพรรค LDP และพรรคโคเมอิโตะ
ทั้งนี้ ยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ที่ 53.84% ลดลงประมาณ 2% จากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2564 และถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะเดียวกัน จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้นเป็น 73 คน ถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 67)
Tags: LDP, การเลือกตั้ง, ชิเงรุ อิชิบะ, พรรคเสรีประชาธิปไตย, รัฐบาลญี่ปุ่น, สภาผู้แทนราษฎร