สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (21 ต.ค.) โดยตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.90 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 2,738.90 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 84.40 เซนต์ หรือ 2.54% ปิดที่ 34.078 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ 1,016.80 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 29.30 ดอลลาร์ หรือ 2.70% ปิดที่ 1,055.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดาเนียล พาวิโลนิส หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจากบริษัท RJO Futures กล่าวว่า ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะโจมตีอิหร่านเพื่อเป็นการล้างแค้นนั้น ยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แต่ราคาทองคำลดช่วงบวก เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันตลาดในระหว่างวัน
จิโอวานนี สตอโนโว นักวิเคราะห์จาก UBS คาดว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,900 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. และให้น้ำหนัก 73.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 67)
Tags: COMEX, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง, ราคาทองคำ