หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ รับ sentiment ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงกดดัน เกาะติดประชุมกนง.บ่ายนี้

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ แต่อาจจะมีแรงกดดันดัชนีจาก sentiment ฝั่งสหรัฐที่มีการเทขายหุ้นเทคโนโลยีออกมา อาจกดดันต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ในตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ และเป็นปัจจัยที่กดดันต่อดัชนีหุ้นไทยได้ และยังกดดันต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้ที่เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวลงตาม

ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้รอติดตามประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งจะต้องติดตามเกี่ยวกับเสียงโหวตของคณะกรรมการกนง.ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดติดตาม เพราะเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งครั้งนี้คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้

โดยให้แนวต้าน 1,470-1,475 จุด แนวรับ 1,450-1,455 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (15 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,740.42 จุด ลดลง 324.80 จุด หรือ -0.75%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,815.26 จุด ลดลง 44.59 จุด หรือ -0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,315.59 จุด ลดลง 187.10 จุด หรือ -1.01%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดที่ระดับ 39,362.63 จุด ลดลง 547.92 จุด หรือ -1.37%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,144.75 จุด ลดลง 174.04 จุด หรือ -0.86% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,169.17 จุด ลดลง 32.12 จุด หรือ -1.00%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ต.ค.) ที่ 1,465.03 จุด ลดลง 5.07 จุด (-0.34%) มูลค่าซื้อขาย 64,715.76 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (15 ต.ค.) 2,458.01 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (15 ต.ค.) ลดลง 3.25 ดอลลาร์ หรือ 4.40% ปิดที่ 70.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ต.ค.) อยู่ที่ 2.74 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.33 ให้กรอบแกว่ง 33.20-33.50 รอลุ้นมติกนง.บ่ายนี้

– “เศรษฐกิจไทย” ยังคงมีความ “เปราะบาง” สะท้อนจากผลดำเนินงาน “กลุ่มทิสโก้” ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 67 ลดลง 8.6% เหตุตั้งสำรอง-คุมเข้มสินเชื่อ-ตรึงเอ็นพีแอล-เน้นความรัดกุม “คลัง” หวังกนง. พิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจรอบด้าน ชี้จังหวะเหมาะสมลดดอกเบี้ย ช่วยพยุงเศรษฐกิจ อัตราแลกเปลี่ยน หวังช่วยหนุนให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนมากขึ้นโบรกมองเศรษฐกิจไทย ยังไม่ฟื้นตัวดี บ่งชี้ผ่านแบงก์ตั้งสำรองสูง

– คลังเร่งสรุปเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้า ครม.พิจารณาในเดือนนี้ ชี้ยังไม่เลือกพื้นที่แต่เปิดทางไม่จำเป็นต้องมีที่เดียว ชี้สิงคโปร์พื้นที่เล็ก ยังมีหลายแห่ง รองเลขาฯนายกฯ และคณะทำงานยกร่าง เผยตั้งเป้าลงทุนนำร่องต้องใหญ่ระดับเกินแสนล้าน คาดสร้างรายได้ให้รัฐถึง 3 ทาง ส่วนการเก็บภาษีเล็งใช้โมเดลของต่างประเทศ ขณะที่เอกชนเปิดหน้า ทั้งกลุ่มสนามม้า สวนสยาม ฯลฯ ที่จับมือกับยักษ์ใหญ่ต่างประเทศ เสนอแผนหวังชิงเค้ก

– “คลัง” เตรียมชงเพิ่ม เม็ดเงินเยียวยาน้ำท่วมอัดซอฟต์โลนเพิ่ม อีก 5 หมื่นล้าน ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม เน้นกลุ่มผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวให้ฟื้นฟูทันหลังท่องเที่ยว นายกฯ สั่งเร่งสำรวจพื้นที่เสียหายทางการเกษตรก่อนเยียวยาเกษตรกร

– บอร์ดอีอีซีปลดล็อกเคาะ 5 ข้อตกลงแก้ไขสัญญา “ไฮสปีด” เชื่อม 3 สนามบิน ลุ้นนับหนึ่งใหม่ หลังโครงการสะดุดมา 5 ปี ด้านรองนายกฯพิชัยเผยเตรียมเสนอ ครม.ภายใน 2 สัปดาห์ ต้องพิจารณาความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน แบงก์พาณิชย์ไทยชี้โครงการเสี่ยงสูง ยังไม่ได้ตัดสินใจร่วมวงปล่อยกู้ เผยโจทย์สำคัญอยู่ที่ “แหล่งเงิน” ลุ้นแบงก์ต่างชาติรับความเสี่ยง ได้หรือไม่ วงในจี้รัฐตอบ 3 ปมแก้สัญญา หวั่นรัฐต้องรับความเสี่ยงกรณีผู้โดยสารไม่เป็นไป ตามเป้า ให้จับตาราคาที่ดิน EEC พุ่งขึ้นตามแนวคอมมิวนิตี้ สถานีรถไฟฉะเชิงเทรา-สัตหีบ

– บิ๊กเอกชน ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายลงครั้งแรกรอบกว่า 1 ปี หวังลดภาระทางการเงิน ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 ชี้หากรอหลังเฟดลดดอกเบี้ยอีกรอบ บาทยังแข็งค่ากระทบหนักส่งออก ระบุดอกเบี้ยเงินกู้จริงในตลาดยังสูงถึง 5-10% “WHA-ศุภาลัย” วอนปรับลด ชี้ลดดอกทุก 1% เพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภคได้ 6%

– “”อุ๊งอิ๊ง” สั่ง “พิชัย-สุริยะ” เดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกสาย คลังรับหน้าที่ศึกษา-ตั้งกองทุนซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า ด้านกระทรวงคมนาคม เร่งผลักดันร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมให้มีผลบังคับใช้ในก.ย. 68 รองรับตั้งกองทุนตั๋วร่วม ชดเชยส่วนต่างค่าโดยสาร ระหว่างรอการซื้อคืนสัมปทานเสร็จสิ้น

 

หุ้นเด่นวันนี้

– KTB (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 24.00 บาท เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 3/67 ที่คาดจะออกมา +2% YoY ถึงแม้ Loan growth จะทรงตัว QoQ ก็ตาม เราคาดว่า KTB จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 4/67 เป็นต้นไป หลังการเบิกจ่ายภาครัฐที่กลับมาเร่งตัวมากขึ้น และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย Loan growth ที่3% ได้ในปี 2567 นี้ นอกจากนี้เรามองว่า KTB จะเป็นธนาคารที่ได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในปี 2568 ด้านคุณภาพสินทรัพย์มีความปลอดภัยสูง จาก MOU การหักหนี้จากเงินเดือนและมีเงินสำรองสูงที่สุดเป็นอันดับสองในกลุ่มธนาคาร ทั้งยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานเมื่อเทียบกับ ROE

– MAJOR (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย BB Consensus 18.16 บาท แนวโน้มการดำเนินครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยการขับเคลื่อนจากกระแสภาพยนตร์ไทยที่ยังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในไตรมาส 4/67 เปิดเดือนต.ค. ด้วย ธี่หยด2 ซึ่งฉาย 5 วัน รายได้มากกว่า 350 ล้านบาท ขณะที่ช่วงที่เหลือของไตรมาส 4 ยังมีโปรแกรมหนังที่น่าสนใจ เช่น 404 สุขีนิรันดร์, Gladiator2, Sonic3 เป็นต้น นอกจากนี้ รายได้ค่าโฆษณา และรายได้จากการขายอาหารเครื่องดื่มโดยเฉพาะป็อปคอร์น ก็คาดว่าจะลู่ขึ้นตามอัตราการเข้าโรงเช่นกัน ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิของ MAJOR* ปี67 และ68 จะอยู่ที่ 796 ลบ. (-24%YoY/ปี66 มีกำไรพิเศษจากการขาย MPIC ราว 346 ลบ.) และ 977 ลบ.(+23%YoY)

– STA (กรุงศรี) “Trading Buy” ราคาเป้าหมาย 22.20 บาท เรามีมุมมอง “Slightly positive” ต่อแนวโน้ม ไตรมาส 3/67 คาดที่ 850 ลบ. (พลิกจากขาดทุน y-y, +35%q-q) ดีที่สุดในรอบ 7 ไตรมาส ปัจจัยหนุนจาก i) ราคายาง SICOM 3Q24 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น +33%y-y, +5%q-q ii) คาดรายได้จากธุรกิจถุงมือยางเติบโตจากความต้องการเพิ่มขึ้น iii) คาด GPM ที่ 12.5% เพิ่มขึ้น y-y, q-q (vs. (8.8%/12.2%.ในไตรมาส 3/66/ไตรมาส 2/67) จากสัดส่วนการขายยาง EUDR ที่มี GPM สูงกว่ายาง Non-EUDR เพิ่มขึ้น สำหรับโมเมนตั้มไตรมาส 4/67 คาดกำไรสุทธิลดลง q-q เพราะคาดลูกค้าชะลอการเร่งสั่งซื้อยาง จากแนวโน้มการเลื่อนการบังคับใช้ยาง EUDR ออกไป 12 เดือน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top