สคบ. เรียก “บอสพอล-บอสดารา” แจงด่วนพรุ่งนี้ จ่อตั้ง 7 คนนอกสอบปมสินบน “เทวดา”

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัดว่า ในวันพรุ่งนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เรียกนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารสูงสุดของ ดิไอคอนกรุ๊ป และเหล่าดาราที่ร่วมเป็นผู้บริหาร มาสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ข้อมูลกับทางสคบ. ซึ่งผลการสอบจะส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อประกอบการพิจารณาข้อเท็จจริง

สำหรับกรณีที่มีคลิปเสียงระบุว่ามีสินบนเทวดาใน สคบ.คุ้มครอง “ดิไอคอน” นั้น เรื่องนี้มีการพาดพิงไปถึงหน่วยงานและบุคคลภายนอก จึงจะเสนอให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกำกับดูแล สคบ. แต่งตั้งคนนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ 7 คนภายในวันพรุ่งนี้

การตั้งกรรมการตรวจสอบขึ้นมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเรียกข้อมูล และเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูล เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมีการรับเรียกส่วย หรือคลิปเสียงระบุไปถึงใคร หรือมีใครบ้างเกี่ยวข้อง โดยจะต้องได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน ซึ่งคณะกรรมการจะต้องให้ข้อเสนอแนะและให้ข้อแนะนำเชิงนโยบายด้วย

ส่วนที่มีปรากฏภาพของบอสพอล ถ่ายรูปกับเจ้าหน้าที่ สคบ.หลายภาพ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาในอนาคตได้ตรงจุด

สำหรับความคืบหน้าของคดีล่าสุด สตช. แจ้งว่า มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับสตช.เกือบ 1,000 คนแล้ว มียอดความเสียหาย 380 กว่าล้านบาท โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานวัตถุ พยานเอกสาร เพื่อรัดกุมที่สุดในการตั้งข้อกล่าว ทั้งนี้ น.ส.จิราพร เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สตช. เร่งรัดการสืบสวนข้อเท็จจริงสคบ. และให้กระทรวงการคลัง ดูกฎหมาย และบังคับกฎหมายให้มากที่สุด

ส่วนประเด็นที่มีพระสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ด้วยนั้น น.ส.จิราพร กล่าวว่า สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องช่วยดูประเด็นนี้ ส่วนต้องนิมนต์พระสงฆ์มาให้ข้อมูลหรือไม่ ต้องดูว่าข้อเท็จจริงไปถึงไหน อย่างไร และเข้าใจความกังวลว่าเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ซึ่งรัฐบาลดูให้ครอบคลุมทุกประเด็น

นอกจากนี้ น.ส.จิราพร กล่าวว่า สคบ. จะมีส่งหนังสือเรียกโล่รางวัลคืนจาก ดิไอคอน เนื่องจากมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ เพราะ สคบ. มอบให้ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ แต่บริษัทนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจ ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ประเด็นนี้เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ในสคบ.ก็จะมีการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 67)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top