ในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับธุรกิจ องค์กรไทยกำลังเผชิญความท้าทายในการจัดการ ‘ไซโลข้อมูล’ หรือการแยกเก็บข้อมูลตามแผนกต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและการตัดสินใจทางธุรกิจ
จากการศึกษาล่าสุดของ Gartner พบว่าองค์กรต่างๆ สูญเสียเงินเฉลี่ยถึง 12.9 ล้านดอลลาร์ต่อปีจากปัญหาคุณภาพข้อมูลที่ไม่ดี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจัดเก็บข้อมูลแบบแยกส่วน
ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลแบบไซโลคลังจัดเก็บข้อมูลแบบไซโล คือ กลุ่มข้อมูลซึ่งถูกจัดเก็บแยกออกจากกันภายในองค์กร ซึ่งโดยทั่วไปจะพบในแผนก หน่วยธุรกิจ หรือระบบต่าง ๆ ไซโลเหล่านี้มักเกิดขึ้นเนื่องจากแนวทางการทำงานในอดีต ความเชี่ยวชาญของแผนก หรือการใช้ระบบซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ผลที่ตามมาของคลังจัดเก็บข้อมูลแบบไซโล ได้แก่
- ความไร้ประสิทธิภาพ: ข้อมูลที่ถูกเก็บเอาไว้มีความซ้ำซ้อน แต่ละแผนกอาจรวบรวมข้อมูลที่คล้ายกันโดยไม่จำเป็น
- ขาดการทำงานร่วมกัน: ไซโลขัดขวางการทำงานร่วมกันข้ามแผนกและการแบ่งปันข้อมูล ซึ่งจำกัดความสามารถขององค์กรในการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ อันมีเป้าหมายเพื่อสร้างองค์กรที่แข็งแกร่ง
- ความไม่ถูกต้องของข้อมูล: ข้อมูลที่แยกจากกันมีความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สอดคล้องกันและความไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีแหล่งที่มาของความจริงเพียงแหล่งเดียว โดยเฉพาะข้อมูลที่สำคัญ
- พลาดโอกาสทางธุรกิจ: ไซโลจำกัดความสามารถขององค์กรในการค้นหาและบริหารจัดการข้อมูลในเชิงลึก ที่อาจหลบซ่อนอยู่ในข้อมูลของแต่ละฝ่าย
นายสมชาย ใจดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูลจาก OPEN-TEC กล่าวว่า “การทลายไซโลข้อมูลไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้ทุกแผนกสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
แนวทางการแก้ปัญหาที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ได้แก่ การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เข้าด้วยกัน การสร้างระบบประกันคุณภาพข้อมูล และการกำหนดนโยบายการกำกับดูแลข้อมูลที่ชัดเจนบริษัทชั้นนำหลายแห่งในประเทศไทยเริ่มลงทุนในระบบบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการ โดยหวังว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ
“การทลายไซโลข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรที่ต้องการเติบโตในยุคดิจิทัล” นายสมชายกล่าวทิ้งท้าย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ต.ค. 67)
Tags: ธุรกิจ, ไซโลข้อมูล