บลจ.กรุงศรีเปิด 4 กอง RMF คัดกองท็อปตราสารหนี้-หุ้นโลกขาย IPO 15-22 ต.ค.

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุน RMF ใหม่ 4 กองทุนซึ่งคัดสรรมาจากธีมการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูง รับดอกเบี้ยขาลง และจัดการความผันผวนได้ดี ได้แก่ กองทุน KFSINCFXRMF, KFWINDXRMF, KFGLOBALRMF และKFGLOBFXRMF เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงให้กับพอร์ต

และผู้ที่เน้นโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากหุ้นชั้นนำทั่วโลกไปพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี เสนอขายครั้งแรก 15 – 22 ต.ค. นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท

“ถ้าเน้นความมั่นคง ไม่ต้องการเสี่ยงสูง กองทุนตราสารหนี้เป็นคำตอบโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่จะได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงเราจึงแนะนำกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัมเอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFSINCFXRMF) ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund กระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลกทั้งตราสารหนี้ภา

ครัฐและภาคเอกชน PIMCO มีความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนตราสารหนี้ ใช้การปรับพอร์ตอย่างยืดหยุ่นในตราสารหนี้ประเภทต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง”

กองทุนเปิดกรุงศรีเวิลด์อิควิตี้อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFWINDXRMF) มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI ACWI ETF อ้างอิงกับดัชนี MSCI ACWI Index ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 1.88 หมื่นล้านเหรียญ พอร์ตการลงทุนหลักเข้าถึงหุ้นทั่วโลกที่มีโอกาสเติบโตและได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยขาลง กระจายการลงทุนทั้งในตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่

ครอบคลุมกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน เฮลท์แคร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่หลากหลายมากกว่า 2,000 บริษัทส่งผลให้กองทุนไม่ผันผวนไปตามอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมากเกินไป ตัวอย่างหุ้นของกองทุนหลัก เช่น APPLE, ALPHABET, AMAZON, ELI
LILLY และMICROSOFT เป็นต้น” (ที่มา: ข้อมูลกองทุน จาก FFS ของกองทุนหลัก ณ 30 มิ.ย. 67)

กองทุนเปิดกรุงศรี Global Unconstrained Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGLOBALRMF) และกองทุนเปิดกรุงศรี Global Unconstrained Equity FX เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGLOBFXRMF) มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก BlackRock Global Unconstrained Equity Fund ได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว โดดเด่นด้วยกลยุทธ์การคัดหุ้นคุณภาพจากทั่วโลก ให้ความสำคัญกับศักยภาพการเติบโตและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยที่ไม่ยึดติดกับประเภทหุ้น อุตสาหกรรม หรือดัชนีชี้วัด เพื่อโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างผลตอบแทนที่ดีบนระดับความผันผวนที่ไม่มากจนเกินไปทั้งในวัฎจักรเศรษฐกิจขาขึ้นและขาลง จึงสามารถใช้เป็นพอร์ตหลักของการลงทุนได้

“จุดเด่นของกองทุนหลักนอกจากการคัดเลือกหุ้นคุณภาพดีทั่วโลกเข้าพอร์ตแล้ว สัดส่วน 50%ของพอร์ตจะลงทุนในธุรกิจที่มีความทนทานต่อวัฏจักรเศรษฐกิจเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้พอร์ตในช่วงเศรษฐกิจขาลง ส่วนที่เหลือจะกระจายการลงทุนในหลากหลายประเภทธุรกิจที่มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม”

พอร์ตปัจจุบันมีการลงทุนใน 3 ธีมหลักได้แก่ 1)บริษัทที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีตำแหน่งเป็นผู้นำตลาด 2) เป็นหุ้นของบริษัทที่มีเทคโนโลยี หรือมีนวัตกรรมที่น่าสนใจ 3)เป็นบริษัทที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความยั่งยืนของผลตอบแทน ทั้งนี้พอร์ตการลงทุนปัจจุบันเน้นการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้ว โดยมีน้ำหนักการลงทุนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯและยุโรป

กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังระยะยะยาวที่ดีโดยผลการดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 9% เทียบกับดัชนีชี้วัด MSCI World อยู่ที่ 7% ผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน(ต่อปี) อยู่ที่ 15% ดัชนีชี้วัด MSCI World อยู่ที่ 11%”นางสุภาพร กล่าว (ที่มา :BlackRock ณ 30 มิ.ย. 67 /ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต /ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลักซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top