บริดจสโตน ประเทศไทย รับรางวัลประกาศเกียรติคุณจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทคู่ค้าที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและมุ่งมั่นบริหารจัดการด้านความยั่งยืนเพื่อเติบโตในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงไปด้วยกันกับไทยเบฟเวอเรจ โดยคุณเฉลิมมินทร์ กล้าวิกรณ์ ผู้จัดการแผนกขายผู้ใช้ปลายทาง บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนรับรางวัล “Business Partner Award 2024 ประเภทรางวัล Gold Award” พร้อมด้วยคุณอรรถพล แพรพริ้วงาม ผู้อำนวยการส่วนงานกิจการความยั่งยืน บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด เป็นตัวแทนรับรางวัล”Sustainability Award” ในงาน SX Sustainability Expo 2024: TSCN Business Partner Conference 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
นับเป็น 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจจากความทุ่มเทในการบริหารงานของบริดจสโตนที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและได้รับการยอมรับจากไทยเบฟเวอเรจ โดยรางวัล “Business Partner Award 2024 ประเภทรางวัล Gold Award” บริดจสโตนได้รับในฐานะบริษัทคู่ค้าที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมตามเกณฑ์ที่ไทยเบฟเวอเรจได้กำหนดไว้ ได้แก่ ด้านการพัฒนาโครงการ การค้า คุณภาพ การส่งมอบ และความยั่งยืน สำหรับรางวัล “Sustainability Award” บริดจสโตนได้รับในฐานะบริษัทคู่ค้าที่ร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับไทยเบฟเวอเรจเพื่อยกระดับการบริหารงานด้านความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่าเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่น ให้ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าและสังคม รวมถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ยางหล่อดอกพรีเมียมจากบริดจสโตนซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านความยั่งยืนสำหรับยางที่ใช้ในการขนส่งให้ไทยเบฟเวอเรจ และการเข้าร่วมแลกเปลี่ยนในกิจกรรมด้านความยั่งยืนต่าง ๆ ที่ดำเนินการโดยไทยเบฟเวอเรจ
คุณอรรถพล แพรพริ้วงาม ผู้อำนวยการส่วนงานกิจการความยั่งยืน บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด กล่าวในฐานะวิทยากรรับเชิญบรรยายในหัวข้อ กลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของบริดจสโตน บนเวที SX Idea Lab ว่า
“บริดจสโตนรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับทั้ง 2 รางวัลดังกล่าวที่ได้รับ เรายังคงมุ่งมั่นบริหารงานภายใต้ Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน) ที่เชื่อมโยงกับพนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจ และลูกค้า เพื่อส่งมอบคุณค่าความยั่งยืนแก่สังคมผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ โซลูชั่นด้านการเดินทาง และกิจกรรมต่าง ๆ โดยบริดจสโตนมีเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนตามเป้าหมายดังต่อไปนี้
1. การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีแผนระยะสั้นภายในปี พ.ศ. 2573 ด้วยการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% เมื่อเทียบกับฐานปี พ.ศ. 2554 และผลิตยางรถยนต์โดยใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียน 40% รวมถึงแผนระยะยาวภายในปี พ.ศ. 2593 ด้วยการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และผลิตยางรถยนต์โดยใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียน 100%
2. การผลักดันให้เกิดการศึกษา การประเมิน รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตน ประเทศไทย ตลอดห่วงโซ่คุณค่า นับตั้งแต่โรงงานผลิต ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจจัดจำหน่าย ธุรกิจค้าปลีก รวมถึงโรงงานผลิตภัณฑ์ยางหล่อดอกพรีเมียมจากบริดจสโตน
3. การส่งเสริมหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยการติดตั้งแหล่งพลังงานทดแทนจากพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดในส่วนของโรงงานผลิต และยังรวมถึงกิจกรรมลดการใช้พลังงาน และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กับกลุ่มบริษัทในเครือของเรา เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจบางส่วนของเราบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเรายังคงสานต่อเจตนารมณ์ดังกล่าวเพื่อร่วมยกระดับการสร้างความยั่งยืนที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าไปด้วยกันกับไทยเบฟเวอเรจ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 67)
Tags: Bridgestone, บริดจสโตน, อรรถพล แพรพริ้วงาม