หุ้น MAJOR ราคาเพิ่มขึ้น 0.67% มาอยู่ที่ 15.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท เมื่อเวลา 10.20 น. โดยเปิดตลาดที่ 15.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 15.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 15.00 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ตอบรับกระแสจองล่วงหน้า “ธี่หยด 2” สูงเป็นประวัติการณ์ของภาพยนตร์ไทย
ประเมินงวดครึ่งปีหลังกำไรเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ปัจจัยหนุนจาก 1.มีภาพยนตร์ไทยรอเข้าฉายมากกว่า 34 เรื่อง รวมถึงภาพยนตร็ที่ทาง MAJOR ร่วมสร้างกับพันธมิตร อาทิ BEC และ WORK ราว 6 เรื่อง ส่วนภาพยนตร์ฝั่งฮอลลีวูด ได้แก่ Deadpool & Wofverine, Joker 2, Transformers One และ Alien นอกจากนั้น บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนโรงภาพยนตร์ราว 36 โรง
2.ธุรกิจจำหน่ายป๊อบคอร์นและเครื่องดื่ม คาดจะกลับมาเติบโตหลังบริษัทปรับกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรสชาติมากขึ้น พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ มากขึ้น รวมถึงยกเลิกกลยุทธ์ปรับลดราคาเพื่อเพิ่มอัตรากำไร ประมาณการกำไรปี 67 ที่ 669 ล้านบาท (-4%YoY) และในปี 68 ที่ 802 ล้านบาท (+20%YoY)
มองราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปแล้วพอสมควร ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเริ่มฟื้นและกลับมาเติบโตในปี 68 นอกจากนี้บริษัทเริ่มซื้อหุ้นคืนแล้ว หลังจากประกาศใช้วงเงิน 1 พันล้านบาท ไม่กิน 76.8 ล้านหุ้น มองว่าจะช่วยพยุงราคา คงมูลค่าพื้นฐานปี 67 ที่ 16.80
ด้าน บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ แนะนำหุ้น MAJOR คาดผลประกอบการช่วง H2/67 ได้รับแรงหนุนสาคัญจากกระแสภาพยนตร์ไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้น บวกกับช่วงปลายปีมีโอกาสได้รับแรงหนุนจากการเข้าฉายของภาพยนตร์ไทยอย่าง ธี่หยด 2, ยอดขายตั๋วในต่างจังหวัดที่ดีขึ้น และ รายได้ในส่วน Concession ที่มีโอกาสในการเพิ่มขึ้นจากจำนวนคนเข้าโรงที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นและการเพิ่มจุดขาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ต.ค. 67)
Tags: MAJOR, ธี่หยด 2, ภาพยนตร์, ราคาหุ้น, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป