หน่วยลงทุนของ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หน่วยลงทุนประเภท ก.หรือ VAYU1 ที่ได้ฤกษ์เข้าเทรดเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 มีมูลค่าการซื้อขายในกระดานสูงถึง 397 ล้านบาท และไม่รวม Big Lot ขนาดใหญ่ที่มีการซื้อขายกันอีก 2.2 พันล้านบาทในวันแรก (7 ต.ค.) ได้รับการตอบรับที่ดี
นับเป็น หนึ่งในมาตราการสนับสนุนตลาดทุนไทย การออกกองวายุภักษ์ ในรอบนี้ เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมในเชิงบวกต่อตลาดทุน ดังนี้
– ดัชนี SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า +100 จุด นับตั้งแต่วันที่ประกาศขายหน่วยลงทุน วายุภักษ์ หนึ่ง
– การจองซื้อหน่วยลงทุนที่ล้นหลามทั้งในส่วนของนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน สามารถระดมทุนได้ 1.5 แสนล้านบาท และมียอดจองซื้อที่มีความต้องการเกิน สูงถึง 40,000 ล้านบาท
– มูลค่าการซื้อขายหน่วย VAYU1 ในตลาดรองนับตั้งแต่วันแรกที่เปิดทำการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก
อีกทั้ง การนำ VAYU1 มาจดทะเบียนเป็นหน่วยลงทุนที่สามารถซื้อขายผ่านกระดานหุ้นของตลาดหลักทรัพย์นั้น ยังเป็นการเพิ่มช่องทางและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินลงทุนของนักลงทุนทั่วไป และเพิ่มความยืดหยุ่นของการมีสภาพคล่อง รวมถึงความปลอดภัย ในการถือครองหน่วยลงทุนประเภทนี้
โดยรวมแล้ว ถือว่าได้บรรลุเป้าหมายการกระตุ้นและสร้างความน่าสนใจให้เกิดกับตลาดทุนในระยะสั้น ตามที่ทางรัฐบาลได้ตั้งไว้
แต่หากดูกลไกการซื้อขายในตลาดรอง จะเห็นได้ว่า ช่วงราคา หรือ spread ของ VAYU1 นั้นได้มีการตั้งไว้อยู่ที่ 0.10 บาท หรือ 1.0% ทั้งบวกและลบ เมื่อเทียบกับมูลค่าหน่วยลงทุน ช่วงราคานี้เป็นเสมือน ต้นทุนแฝง ของนักลงทุนที่ต้องจ่าย หากต้องการซื้อ หรือขาย หน่วยลงทุน
ค่าใช้จ่ายแฝงในรูปของ spread นี้ สูงถึง 1% หรือคิดเป็น ล้านละ 1 หมื่นบาท และเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ขั้นต่ำของกองที่ 3% ต่อปี
ค่าใช้จ่ายแฝงนี้เป็นสัดส่วนมากถึง 1 ใน 3 ของผลประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับต่อปี (และมากกว่าค่าคอมของโบรกเกอร์ถึง 5-8 เท่า) หรือเมื่อเทียบกับ spread ของหุ้นในดัชนี SET50 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 0.60% จะเห็นได้ว่า spread ของ VAYU1 แพงกว่าเกือบเท่าตัว
ทั้งนี้ การมี Spread ที่กว้าง จะมีข้อดีที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ดูแลสภาพคล่อง(Market Maker:MM) แต่ไม่ใช่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่คิดว่าจะเอา VAYU1 มาเทรดเหมือนหุ้น เพราะ ทุกๆ 1 ล้านบาท ถ้าเป็นการซื้อขายที่จับคู่กับผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือ MM โดยตรง MM จะได้กำไรมากถึง 1 หมื่นบาท
ยกตัวอย่าง หากเทียบดูกับวอลุ่มเทรดวันแรก MM อาจจะได้รับผลประโยชน์นี้มากถึง 3.9 ล้านบาท ในการซื้อขายเพียง 1 วัน
ถ้าจะมีการกลับมาทบทวนความเหมาะสมของ spread นี้ เพื่อให้ผลประโยชน์หลักยังอยู่ที่ผู้ถือหน่วยและนักลงทุนทั่วไป
อย่างน้อยๆก็ควรพิจารณาให้ spread อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เช่น 0.01 หรือ 0.02 บาท เพื่อไม่ให้ต้นทุนในการซื้อขาย VAYU1 ในตลาดรองมีสัดส่วนที่สูงเกินความจำเป็น
เนื่องจาก VAYU1 คือ กองทุนรวมประเภทหนึ่ง เพียงแต่สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ ฉะนั้น แนวทางปฏิบัติ ก็ต้องตามเกณฑ์ โดยเฉพาะเรื่องของการเปิดเผยสารสนเทศของกองทุนรวม
กล่าวคือ การจะเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหน่วยนั้น จะมีเกณฑ์การเปิดเผยรายชื่อ 10 รายแรก ณ วันปิดสมุดทะเบียน โดยจะเปิดเผยภายใน 14 วันนับแต่วันปิดสมุดทะเบียน โดยเกณฑ์ไม่ได้กำหนดให้เปิดเผยรายชื่อในวันแรก ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ที่ใช้กับกองทุนรวมทุกๆ กอง ไม่เฉพาะแค่กองทุนวายุภักษ์
ธิติ ภัทรยลรดี
Tags: SCOOP, VAYU1, กองทุนรวม, กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง, มองมุมต่าง, วายุภักษ์ หนึ่ง