“วายุภักษ์ หนึ่ง” ลั่นจ่ายปันผลครั้งแรกไม่ต่ำกว่า 3% รอรับทรัพย์ ก.พ.68 มองเป้า SET ปลายปี 1,470 จุด

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) เปิดเผยว่า กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง เตรียมจะจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในงวด 3 เดือน คือตั้งแต่วันจดทะเบียน 30 ก.ย. 67 ถึงสิ้น ธ.ค.67 และคาดว่าจะรับเงินปันผลได้ในช่วงเดือน ก.พ. 68 ให้กับผู้ถือหน่วยประเภท ก. คาดว่าจะจ่ายเงินปัผลไม่ต่ำกว่า 3%

“เราจะปันผลรอบแรก ปิดงวด ธ.ค.67 จ่ายต้นปี 68 จากที่เริ่มจดทะเบียนเมื่อ 30 ก.ย.”นางชวินดา กล่าว

นางชวินดา กล่าวว่า กองทุน VAYU1 ระบุในหนังสือชี้ชวนจะมีการจ่ายปันผล 3-9% ต่อปี ตลอดระยะเวลาอายุการถือหน่วยลงทุน 10 ปี โดยจะจ่ายเงินปันผล 2 ครั้ง/ปี ซึ่งปีหน้าจะเริ่มจ่ายเป็นรอบ 6 เดือน (มิ.ย. และ ธ.ค.) หากปีไหนที่มีผลตอบแทนเกิน 9% ต่อปี ส่วนที่เกิน 9% จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข.

วันนี้กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) นำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ถือหน่วย หลังจากเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนได้รับการตอบรับดีมาก นักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อกว่า 2 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศ เข้าซื้อราว 1.3 แสนล้านบาท รวมเม็ดเงินที่ระดมทุนได้ 1.5 แสนล้านบาท

นางชวินดา กล่าวว่า กองทุนฯ ได้เริ่มทยอยลงทุนแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ซึ่งพิจารณาจากทั้งปัจจัยพื้นฐาน ธรรมาภิบาลและการกำกับดูแล เป็นสำคัญ รวมถึง Value ของบริษัทนั้นๆ ด้วย ภายใต้นโยบายการลงทุนผสม โดยลงทุน SET50 TRI สัดส่วน 50% พันธบัตรรัฐบาล 40% และหุ้นกู้เอกชน ที่มีเครดิตเราติ้ง A ขึ้นไป

มองว่าภาวะตลาดหุ้นไทยมีขึ้นมีลง เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ที่เป็นเม็ดเงินใหม่จะเป็น Buffer ยามเมื่อตลาดปรับตัวลง ซึ่งตลาดหุ้นไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ยังมีการท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโต ปลายปีนี้มอง SET Index ที่ 1,470 จุด และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังเติบโตได้ในระยะยาว เห็นได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทยอยออกมา

“ตลาดตอบรับปัจจัยทั้งภายในภายนอก sentiment อยู่ในทางที่ดีขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนมาช่วยสนับสนุน ปัจจัยภายใน การเมืองนิ่ง ทิศทางเศรษฐกิจไปได้ ท่องเที่ยวก็เข้ามา”นางชวินดา กล่าว

*คลังพอใจวายุภักษ์หนุนตลาดหุ้น

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังได้วางแนวทางการระดมทุนผ่านหน่วยลงทุนประเภท ก. ของ VAYU1 เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ หลังจากสถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน และการนำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่สนใจ โดยเชื่อมั่นว่ากองทุนฯ จะมีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนฯ

ในช่วง 1 เดือนบรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยดีขึ้นสอดรับกับวัตถุประสงค์ของกองทุนจากก่อนหน้าตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนมาก ทำให้การลงทุนลดลงอย่างมาก ความไม่มั่นใจในตลาดลดลง ทั้งนี้ก.คลังพร้อมให้การสนับสนุนและสร้งความเชื่อมั่นที่จะให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น

“วันนี้ ก.ล.ต.และตลาดฯก็ทำงานเต็มที่ กติกา ผมก็คิดว่าปรับปรุงไปเยอะ น่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาทั้งจากในประเทศ และนอกประเทศเข้ามา สำหรับในประเทศจริงๆแล้วประเทศเรายังมีเงินเหลืออยู่ที่ไปฝากเงินประเภท ทุกคนก็น่าจะวิเคราะห์อยู่แล้วว่าพอร์ตตัวเองจะลงทุนอะไร…เม็ดเงินสภาพคล่องที่เหลือน่าจะอยู่ใน Fixed Income บางประเภท”รมว.คลังกล่าว

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ก็ยังเดินหน้าเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ในวันนี้นักลงทุนในประเทศรู้สึกปรับเปลี่ยนไปบ้างเมื่อเทียบกับ 6-7 เดือนที่แล้ว ส่วนนักลงทุนต่างประเทศก็ดูปัจจัยจากความรู้สึกนักลงทุนในประเทศ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยประกอบกับเศรษฐกิจโลกซึ่งมองว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียเหนือที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุน

“นักลงทุนมองเรื่องดอกเบี้ยถ้ามากก็ลงทุน Fixed Income ถ้าดอกเบี้ยน้อยลงก็ปรับพอร์ตก็มาลงหุ้นที่เป็น Growth ซึ่งก็ดูอยู่ว่าดอกเบี้ยเป็นยังไง”รมว.คลัง กล่าว

นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดหุ้นในปีหน้าจะไปได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับรัฐบาลแก้ไขเพื่อผลักดันเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโต ทำให้เครื่องจักรเศรษฐกิจเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเร่งเชิญชวนนักลงทุนใหม่ที่เป็น New Technology เข้ามา

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในนามของคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เป็นหนึ่งในกองทุนรวมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ราว 5 แสนล้านบาท และด้วยการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการเงิน 1.5 แสนล้านบาท และส่งเสริมให้กองทุนฯ มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงมากขึ้น และสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่นักลงทุน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ต.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top