บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ถัดไป (7-11 ต.ค.) มีแนวรับที่ 1,425 และ 1,400 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,460 และ 1,475 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ย. ข้อมูลการนำเข้าและส่งออกเดือนส.ค. บันทึกการประชุมเฟด (17-18 ก.ย.) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ย. ของญี่ปุ่น และยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ของยูโรโซน
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ก.ย.-4 ต.ค.) ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยดีดตัวขึ้นในช่วงแรกตามปัจจัยบวกในประเทศ ก่อนจะร่วงลงในเวลาต่อมาตามปัจจัยลบจากต่างประเทศ โดยหุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบในช่วงแรก ก่อนจะดีดตัวขึ้นแรงในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่กองทุนวายุภักษ์ทยอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นหลายกลุ่ม นำโดยกลุ่มแบงก์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ หุ้นไทยยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากประเด็นข่าวที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศเข้าลงทุนในประเทศไทยด้วยวงเงินที่ค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ หุ้นไทยพลิกร่วงตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ โดยมีปัจจัยลบจากความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มเทคโนโลยีจากประเด็นข่าวควบรวมกิจการ ระหว่างบริษัทผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมและบริษัทด้านพลังงาน
ในวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.67 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,444.25 จุด ลดลง 0.41% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 56,991.12 ล้านบาท ลดลง 0.66% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 3.10% มาปิดที่ระดับ 343.54 จุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ต.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, บล.กสิกรไทย, หุ้นไทย