นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการเดินหน้าโครงการ “สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (N3)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ว่า สำนักงานสลากฯ กำหนดจำหน่ายสลากฯ เลขสามหลัก ในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) ให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่งวดวันที่ 1 พ.ย. 67 หรือจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.67 เป็นต้นไป เป็นเวลา 6 เดือน ผ่านจุดจำหน่ายในโครงการร้านค้าสลาก 80 บาท ทั่วประเทศกว่า 400 จุด
โดยจะจำหน่ายในราคา 20 บาทต่อรายการ เริ่มต้น 2 ล้านรายการ คิดเป็นวงเงิน 40 ล้านบาท หลังจากนั้นจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเพดานการจำหน่ายในช่วงทดสอบระบบ 6 เดือน อยู่ที่ 10 ล้านรายการ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยระหว่างนี้ จะมีการเก็บรวมรวมข้อมูลการจำหน่าย ผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก คาดว่าจะเปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.68
“สลาก N3 เป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ไขสลากเกินราคาแบบครบถ้วนในทุกมิติยิ่งขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน และเป็นไปตามกลไกตลาด แก้ปัญหาให้ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ที่ยังไม่สามารถซื้อหมายเลขที่ต้องการได้ ทำให้ต้องไปพึ่งพาทางเลือกอื่น เช่น การจำยอมซื้อสลากเกินราคาเพื่อให้ได้หมายเลขที่ต้องการ และผลพลอยได้ คือการดึงเม็ดเงินจากหวยใต้ดิน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1-3 แสนล้านบาทต่อปี ขึ้นมาอยู่ในระบบ โดยสำนักงานสลากฯ คาดหมายว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินจากหวยใต้ดินได้ราว 10-20%” นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับกระบวนการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลักนั้น อยู่ระหว่างการจัดทำเกณฑ์คัดเลือกตัวแทนจำหน่าย และข้อกำหนดต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นและพร้อมให้ดำเนินการก่อนเปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบในเดือน เม.ย.68
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลเลข 3 หลัก ในระบบ Sandbox จะจำหน่ายในราคาใบละ 20 บาท สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น โดยผู้ซื้อสามารถซื้อสลากในช่วงทดสอบจำหน่ายได้ที่ “ร้านค้าโครงการสลาก 80” ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และทำรายการซื้อสลาก พร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการ ที่ต้องชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งในแต่ละครั้งสามารถซื้อสูงสุดได้ไม่เกิน 100 รายการ
ทั้งนี้ สลาก 1 ใบ มีโอกาสถูก 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ 3 ตัวตรง, 3 ตัวสลับหลัก, 2 ตัวตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะจ่ายเงินรางวัลในรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้น ๆ กำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ใช้ผลรางวัลอ้างอิงจากผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก โดยรางวัล 3 ตัวตรง และ 3 ตัวสลับหลัก จะมาจากเลข 3 ตัวท้ายของผลรางวัลที่ 1, รางวัล 2 ตรง มาจากผลรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และรางวัลพิเศษ จะสุ่มจากผู้ถูกรางวัล 3 ตัวตรงเท่านั้น โดยจะมีการออกรางวัลพิเศษภายหลังจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก เสร็จสิ้นในแต่ละงวด
สำหรับการจ่ายรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
“สำนักงานสลากฯ จะจำหน่ายสลากด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อสลากได้ การกำหนดพื้นที่ในการจำหน่ายสลากห้ามใกล้กับสถานศึกษา เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลักแบบดิจิทัล” พ.ท.หนุน ระบุ
ทั้งนี้ การจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายสลากฯ ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 เป็นเงินรางวัล 60% โดยในส่วนนี้ แบ่งเป็น
1.รางวัลสามตัวตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30% 2.รางวัลสามสลับหลัก สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30% 3.รางวัลสองตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 39% และ 4.รางวัลพิเศษ สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 1%
โดยหากประเภทรางวัลใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะสมทบเงินรางวัลดังกล่าวไปยังงวดถัดไปตามประเภทรางวัล และหากในงวดถัดไป ไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก จะต้องนำเงินที่สมทบดังกล่าวนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน โดยการออกรางวัล จะแบ่งเป็นเดือนละ 2 ครั้ง ในวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน หรือตามที่สำนักงานสลากฯ กำหนด
ส่วนที่ 2 ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และส่วนที่ 3 ไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ต.ค. 67)
Tags: ธนวรรธน์ พลวิชัย, ล็อตเตอรี่, สลาก N3, สลากกินแบ่งรัฐบาล, หนุน ศันสนาคม, หวย