สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการและร่างประกาศเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ และการขายหลักทรัพย์โดยที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง (ธุรกรรม short sell และ long sell) เพื่อยกระดับการกำกับดูแลการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ รักษาความเป็นธรรม และสร้างความชัดเจนในการให้บริการของ บล.
ปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนต่างประเทศ นับเป็นสัดส่วนที่สำคัญของการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งส่วนมากเป็นการส่งคำสั่งผ่าน บล. ในต่างประเทศ ที่ส่งคำสั่งซื้อขายมายัง บล. ไทยอีกทอดหนึ่ง โดย บล. ไทยที่รับคำสั่งซื้อขายดังกล่าว อาจไม่ทราบถึงข้อมูลหรือพฤติกรรมการซื้อขายของลูกค้าของ บล. ต่างประเทศนั้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า บล.ไทยที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของ ก.ล.ต. มีขั้นตอนและระบบงานที่รัดกุมในการกลั่นกรองและดูแลให้ บล. ต่างประเทศที่เป็นลูกค้าของตน ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม short sell และ long sell อย่างถูกต้องด้วย
ก.ล.ต. จึงเห็นควรปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ และการขายหลักทรัพย์โดยที่ บล. ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง ซึ่งคณะกรรมการกำกับตลาดทุนได้มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว ในการนี้ ก.ล.ต. จึงเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้ บล. ที่มีลูกค้าซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ตามกฎหมายต่างประเทศที่ให้บริการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนเพื่อซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่น (inter broker) มีหน้าที่ทำความรู้จักระบบงานของลูกค้า (Know Your Process: KYP) เพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าทราบและเข้าใจหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และมีการสื่อสารหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้ลูกค้าของตนทราบต่อไป รวมถึงเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้ามีระบบงานในการควบคุมและติดตามให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
2. กำหนดให้ บล. ต้องมีระบบงานในการติดตามและตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายของลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ
3. กำหนดให้ บล. ต้องมีข้อตกลงกับลูกค้าก่อนเริ่มให้บริการ เพื่อให้ลูกค้ายินยอมจ่ายค่าปรับในกรณีที่ บล. ถูกลงโทษปรับจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสำนักหักบัญชี อันเนื่องมาจากการที่ลูกค้าปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม short sell และ บล. มีหน้าที่ต้องบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าว
4. กำหนดให้ บล. ต้องมีระบบงานในการรับส่งและแปลงคำสั่งของลูกค้าเข้าสู่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด และมีระบบงานในการรับส่งคำสั่งที่มีประสิทธิภาพสามารถจำแนกได้ว่าเป็นธุรกรรม short sell หรือ long sell
5. ก่อนส่งคำสั่ง บล. ต้องมีการตรวจสอบคำสั่งขายหลักทรัพย์ของลูกค้า เพื่อยืนยันได้ว่าลูกค้ามีการยืมหลักทรัพย์หรือมีหลักทรัพย์ของตนเองครบถ้วนก่อนส่งคำสั่งขาย
6. หลังส่งคำสั่ง บล. ต้องจัดให้มีระบบในการติดตามและตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายของลูกค้า เพื่อสุ่มตรวจสอบธุรกรรม short sell และ long sell ที่อาจเข้าข่ายไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=1018 และระบบกลางทางกฎหมาย https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDM5NERHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือทาง e-mail : [email protected] [email protected] หรือ [email protected] จนถึงวันที่ 31 ต.ค.67
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 67)
Tags: Short Sell, ก.ล.ต., การลงทุน, ชอร์ตเซล