นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE) เปิดเผยว่า MEDEZE กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 268 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 9 บาท จากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2567 คาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 15 ต.ค. 2567 ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HELTH)
ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) เท่ากับ 35.55 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิในรอบ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งเท่ากับ 270.40 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ หรือ Fully Diluted ซึ่งเท่ากับ 1,068,000,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.25 บาทต่อหุ้น
“ราคาเสนอขายในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจของ MEDEZE และแผนการนำเงินระดมทุนที่ได้จากประชาชนเป็นครั้งแรกไปใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต ถือว่ามีความเหมาะสมสำหรับนักลงทุน” นายพายุพัด กล่าว
MEDEZE แต่งตั้ง บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ และมี บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.ซีจีเอสไอ (ประเทศไทย) บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.ดาโอ (ประเทศไทย) บล.โกลเบล็ก เป็นผู้ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEDEZE เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ MEDEZE จะนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) เพื่อแสดงพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม และแผนขยายธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจน รวมถึงธุรกิจกำลังอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น
บริษัทเป็นผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) มีประสบการณ์ในการดำเนินเนินธุรกิจมาต่อเนื่องมามากกว่า 14 ปี ให้บริการครอบคลุมการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในระยะยาว ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยดำเนินการผ่านบริษัทย่อย 5 บริษัท ได้แก่ (1) บริษัท เมดีซ เอ็นเค จำกัด ให้บริการทดสอบศักยภาพ NK Cells (2) บริษัท เมดีซ คอสเมซูติคอล จำกัด จำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้ตราสินค้า DAA และอาหารเสริม (3) บริษัท เมดีซวิจัยและพัฒนา จำกัด วิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (4) Medeze Treasury Pte. Ltd. เป็นบริษัทเพื่อการลงทุน (Investment Company) โดยถือครองและบริหารตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ และ (5) Medeze Group Pte. Ltd. วิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
บริษัทมีศักยภาพสูงในการให้บริการด้วยถังไนโตรเจนเหลวทั้งหมด 30 ถัง มีความสามารถสูงสุดในการสกัดเลือด 2,880 เคส/ปี และสกัดเนื้อเยื่อ 4,560 เคส/ปี และมีความสามารถในการทดสอบศักยภาพของ NK Cells อยู่ที่ 1,920 เคสต่อปี ซึ่งมีพันธมิตรกับโรงพยาบาลในประเทศทั้งหมด 219 โรงพยาบาล มีตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ เมียนมา อินโดนีเซีย และกัมพูชา
รวมถึงมีนักวิทยาศาสตร์ และบุคลากรชั้นนำในวงการเทคโนโลยีชีวภาพ หรือ Biotechnology จำนวนมาก ส่งผลให้มีความแข็งแกร่งในด้านเครือข่ายแพทย์ในสถานพยาบาลชั้นนำ ไปจนถึงการมีห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อระดับคลีนรูม คลาส 100 พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในวงการธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell Banking เข่นระบบการแช่แข็งในถังไนโตรเจนเหลว เครื่องคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตอัตโนมัติ หรือ Auto Xpress และเครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอลชนิดอัตโนมัติ (Quantum)
บริษัทได้รับความไว้วางใจในระดับสากลด้วยมาตรฐานการจัดเก็บแช่แข็งในระดับสากล Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานการดำเนินงานของธนาคารสเต็มเซลล์ที่เข้มงวด เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพสากลตามข้อกำหนดขององค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา หรือ U.S.FDA ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเลือดจากสายสะดือตั้งแต่การจัดเก็บในระยะยาว ไปจนถึงการกระจายขนส่งเพื่อรองรับการรักษาให้กับผู้ป่วยทั่วโลก และมาตรฐานห้องปฏิบัติการคุณภาพ Clean Room Class 100 ตั้งแต่ปี 2556 โดย National Environmental Balancing Bureau หรือ NEBB จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมอนุภาค ความดัน และอุณหภูมิภายในห้องปฏิบัติการอย่างเหมาะสม
ภายหลังระดมทุน MEDEZE มีแผนลงทุนขยายธุรกิจด้านเซลล์รากผม (Hair Follicle Cell Bank) ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเซลล์จากรากผม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม และหนังศีรษะ ที่มีแนวโน้มจะพบเจอมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย และลงทุนติดตั้งระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Cell Culture System) ซึ่งเป็นนวัตกรรมขั้นสูงและล้ำสมัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้กระบวนจัดเก็บมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดความผิดพลาดของบุคคล และลดความเสี่ยงจากตัวแปรที่มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ยกระดับความน่าเชื่อถือทัดเทียมกับผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลก สามารถดึงดูดลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้มากขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ MEDEZE ในปี 64-66 มีรายได้รวม 446.41 ล้านบาท 595.70 ล้านบาท และ 701.81 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 112.06 ล้านบาท 147.19 ล้านบาท และ 239.57 ล้านบาท ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 67)
Tags: IPO, Medeze, พายุพัด มหาผล, หุ้นไทย, หุ้นไอพีโอ, เมดีซ กรุ๊ป