รมว.พาณิชย์ จ่อออกมาตรการช่วย SME จี้แบงก์ชาติร่วมแก้หนี้

พิชัย นริพทะพันธุ์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงกระทู้ถามของ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.ถึงแนวทางการแก้ไขผลกระทบจากแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ของจีน รวมถึงมาตรการในการสนับสนุนเยียวยา SMEs ในไทยที่ได้รับผลกระทบว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีมาตรการให้ความช่วยเหลือ SMEs ต้องดูเรื่องหนี้สินของ SMEs เพราะปัจจุบันหนี้เพิ่มขึ้นจำนวนมากจะยากต่อการเดินหน้าต่อ

โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ต้องร่วมมือกัน แก้ไขปัญหาในภาพรวม เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งสินค้าจีนมาแทรกแซง SMEs เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะเป็นปลายเหตุ แต่ต้นเหตุที่เกิดปัญหามาจากโควิด ซึ่งการตัดหนี้ก็เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้น จึงอยากให้ธปท.มองว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในต่างประเทศเป็นเรื่องปกติที่ต้องช่วยเหลือกัน กระทรวงคลังร่วมมือกับธปท. แต่ธปท.เรายังไม่ยอมลดดอกเบี้ย พอตนออกมาตำหนิคนของแบงก์ชาติก็มาตำหนิตน

“ผมยืนยันไม่ได้ด่าแบงก์ชาติ แต่ถ้าเศรษฐกิจแย่ขนาดนี้ จะต้องออกมาตรการช่วยเหลือให้ฟื้นเหมือนประเทศจีน ออกแพ็คเกจใหญ่มาช่วย แต่ 10 ปีแบงก์ชาติไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งที่มีหน้าที่ช่วยเศรษฐกิจด้วย ไม่ใช่เพียงกระทรวงการคลังหรือรัฐบาลมีหน้าที่อย่างเดียว แต่ทั้งโลกแบงก์ชาติมีหน้าที่ฟื้นเศรษฐกิจ อย่างสหรัฐฯ หากมีปัญหาก็อัดเงินจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้น ผมยืนยันไม่อยากทะเลาะกับใครหรือข้องใจกับใคร บางครั้งอาจจะพูดแรงไปบ้าง เพราะรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งหอการค้า ภาคอุตสาหกรรม โทรมาบอกว่ามันจะเจ๊งกันอยู่แล้ว มาเจอโควิด ดอกเบี้ยแพงหลายเรื่อง เราพยายามแก้ทุกทาง แต่ต้องแก้ภาพรวมทั้งหมดด้วย เราอยากแก้ทุกอย่างพร้อมกัน ร่วมมือกันทุกฝ่าย ที่ผ่านมาถือเป็นวิกฤติ ทำอย่างไรให้ฝ่าวิกฤติไปให้ได้” นายพิชัย กล่าว

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาผู้ประกอบการ SMEs จะมีการแถลงเร็ว ๆ นี้ โดยนายกรัฐมนตรี มีหลายโปรแกรมที่จะให้ความช่วยเหลือ เพราะเป็นหน้าที่หลักรวมถึงต้องผลักดันผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ส่วนกรณีที่ TEMU จะเข้ามาตั้งบริษัทที่ไทย นายพิชัย กล่าวว่า ก็ต้องผ่านมาตรฐานต่าง ๆ และจะติดตามมอนิเตอร์สินค้าจีนที่เข้ามาอย่างใกล้ชิด โดยส่วนตัวจะไม่ยอมเด็ดขาดหากมีการขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทางเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยทุกอย่าง ซึ่งไทยมีความจำเป็นต้องพึ่งพาจีนเพราะเป็นตลาดใหญ่ หากเจรจาต่อรองขายของในจีนจะได้ประโยชน์มาก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 67)

Tags: , , , , ,
Back to Top