ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวก หุ้นจีนพุ่งเกือบ 6% หลังภาคการผลิตหดตัวน้อยกว่าคาด

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (30 ก.ย.) โดยตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นเกือบ 6% หลังมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลงน้อยกว่าคาด ขณะที่ดัชนีนิกเกอิร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจาก ชิเงรุ อิชิบะ ซึ่งสนับสนุนแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และเตรียมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,272.30 จุด เพิ่มขึ้น 184.77 จุด หรือ +5.98% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,321.97 จุด เพิ่มขึ้น 689.67 จุด หรือ +3.34% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 37,980.34 จุด ลดลง 1,849.22 จุด หรือ -4.64%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 1.13% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียบวก 0.72%

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (30 ก.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 49.8 เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.1, เดือนก.ค.ที่ระดับ 49.4 และเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 49.5

ทั้งนี้ แม้ว่าดัชนีอยู่ต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว แต่ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ย.ของจีนหดตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 49.5

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนยังได้แรงหนุนจากการที่จีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เตรียมสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมด (existing home loan) ก่อนวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 67)

Tags:
Back to Top