นายกฯ สั่งตั้ง ศปช.ส่วนหน้าเชียงราย ให้ มท.4 เป็นประธาน เร่งเยียวยาผู้ประสบภัย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมบูรณาการแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมว่า ได้ติดตามข้อมูลจาก ศปช.อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน รวมถึงการฟื้นฟูเยียวยา และการสาธารณสุข โดยขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันช่วยเหลือประชาชน ทั้งหน่วยงานปกครอง หน่วยงานความมั่นคง และอาสาสมัครจากทั่วประเทศ รวมทั้งการรับบริจาคเงินและสิ่งของต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งเย็นนี้จะเดินทางไปให้กำลังใจ และแก้ไขปัญหาในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ส่วนวันพรุ่งนี้จะลงพื้นที่อำเภอแม่สาย และพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีปัญหาดินโคลนถล่มสร้างความเสียหายค่อนข้างมาก โดยมอบนโยบายให้กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดการจ่ายค่าเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด และมอบหมายปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเพิ่มค่าเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อนและทรัพย์สินเสียหายให้เหมาะสม

ส่วนการแก้ปัญหาดินโคลนที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือนของประชาชนนั้น จะระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน แบ่งขอบเขตโซนความรับผิดชอบในการทำงาน โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เคลื่อนการแก้ปัญหาให้เสร็จโดยด่วน โดยให้ส่วนราชการอื่น ๆ สนับสนุนเครื่องจักร/เครื่องมือ และอัตรากำลังคน เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง

พร้อมทั้งให้กระทรวงการคลังเตรียมดำเนินการเรื่อง Soft loan สำหรับฟื้นฟูกิจการ หรือซ่อมแซมที่พักอาศัยหลังน้ำลด วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายสำหรับกลุ่ม Micro SME ขึ้นไป รวมถึงบุคคลธรรมดา ขณะที่ส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาด และซ่อมแซม มอบให้แก่ผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก รวมถึงสินค้าธงฟ้าในราคาประหยัด เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม ผ่านระบบ Video conference จากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมรับฟังรายงานความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

หลังรับฟังรายงานแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน อาสาสมัคร พี่น้องประชาชนที่ช่วยแก้ไขปัญหา สถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ และได้สั่งการต่อที่ประชุม ดังนี้

1.ให้จัดตั้ง ศปช.ปฎิบัติการส่วนหน้า เพื่อเป็นศูนย์สั่งการและประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เป็นประธาน และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นที่ปรึกษา และ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ เป็นโฆษก ให้ประจำที่หน้างานเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยให้มีการระดมพลผ่านทางกระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับอาสาสมัคร และหน่วยงานเอกชนต่าง ๆ

2.การแก้ไขปัญหาในพื้นที่เขตอำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอแม่สาย ให้ดำเนินการดังนี้

1) ให้กระทรวงมหาดไทย แบ่งพื้นที่รับผิดชอบ (Zoning) ให้มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชุมติดตามผลการดำเนินงาน และปัญหา อุปสรรค จากหัวหน้าหน่วยที่รับผิดชอบแต่ละโซนทุกวัน เพื่อรายงานไปยัง ศปช. สนับสนุนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหา เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ต่อไป โดยรัฐบาลขอตั้งเป้าหมายในพื้นที่ที่ได้เริ่มเยียวยาแล้วภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ ขอให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน

2) ให้ทุกส่วนราชการสนับสนุนเครื่องจักร/เครื่องมือ บุคลากรในการดำเนินงาน โดยรายงานไปที่ ศปช. และสำเนาผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงราย และอธิบดีกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยทราบด้วย

3) หากพบว่าเครื่องจักร/เครื่องมือมีไม่เพียงพอ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดจ้างจากเอกชน เพื่อระดมการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมอบหมายให้กรมบัญชีกลาง พิจารณากระบวนการจัดจ้างให้เกิดความรวดเร็ว โดยไม่ขัดกับระเบียบที่เกี่ยวข้อง และสำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณกับหน่วยงาน ดำเนินการเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชนต่อไป

4) การอำนวยความสะดวกเพื่อซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน ถนน สะพาน เสาไฟฟ้า อ่างเก็บน้ำ ท่อระบายน้ำ ตลอดจนการบริหารจัดการขยะ และโคลน ให้ผ่อนผันเรื่องการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ และที่ราชพัสดุ ที่ส่วนราชการต่าง ๆ ใช้อยู่ เช่น พื้นที่ของกองทัพ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอประเด็นดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

5) ระบบเตือนภัย ให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเร่งรัดดำเนินการ ทั้งในพื้นที่นี้ และพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศที่มีความเสี่ยง ให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้า

6) เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม (กรมเจ้าท่า, กรมทางหลวง, กรมทางหลวงชนบท) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรธรณี, กรมป่าไม้, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช) กระทรวงมหาดไทย (จังหวัดเชียงราย, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ วางแผนการแก้ไข ปัญหาระยะกลาง และระยะยาว เช่น การขุดลอกแม่น้ำสายไม่ให้ตื้นเขิน พิจารณาขยายสะพานหรือท่อระบายน้ำ เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ การป้องกันการพังทลายของตลิ่ง และการจัดทำระบบเตือนภัย และสรุปผลเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาโดยด่วนต่อไป

“การจ่ายเงินเยียวยาให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบ ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายให้กับราษฎรโดยเร็วที่สุด รวมถึงมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม ที่ทุกภาคส่วนจะเร่งเสนอต่อ ครม. ต่อไป” น.ส.แพทองธาร กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปมอบเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top