เซี่ยงไฮ้-เซินเจิ้นเตรียมยกเลิกข้อจำกัดการซื้อบ้าน หวังกระตุ้นตลาดอสังหาฯ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (27 ก.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า เมืองใหญ่ของจีนอย่างเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น กำลังวางแผนที่จะยกเลิกข้อจำกัดสำคัญที่ยังคงเหลืออยู่ เพื่อดึงดูดผู้ซื้อบ้านที่มีศักยภาพ และเพื่อพยุงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

การเปลี่ยนแปลงนี้จะอนุญาตให้ประชาชนจากเมืองอื่น ๆ ของจีนสามารถซื้อบ้านในเมืองยอดนิยมอย่างเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นได้ ซึ่งก่อนหน้านี้การซื้อบ้านในเมืองเหล่านี้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพราะความกังวลเรื่องการเก็งกำไร

แหล่งข่าวระบุว่า นอกจากเปิดให้คนต่างถิ่นซื้อบ้านได้แล้ว เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและการเงินของจีน และเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี เปรียบเสมือนซิลิคอนแวลลีย์ของจีน ยังต้องการยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนบ้านที่ชาวจีนสามารถซื้อได้อีกด้วย

แหล่งข่าวคาดว่า ทั้งเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นจะประกาศการยกเลิกข้อจำกัดการซื้อบ้านในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ตามรอยอีกหลายเมืองของจีนที่ยกเลิกข้อจำกัดการซื้อบ้านทั้งหมดแล้ว

ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นเริ่มใช้มาตรการจำกัดการซื้อบ้านในปี 2554 และ 2553 ตามลำดับ เพื่อพยายามลดความร้อนแรงของราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้นในขณะนั้น

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังระบุว่า เมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งก็กำลังพิจารณายกเลิกข้อจำกัดการซื้อบ้านในทำนองเดียวกันนี้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเช่นกัน โดยจะทำเป็นขั้นตอนในระยะยาว แต่จะมีข้อยกเว้นในเขตสำคัญ ๆ อย่างซีเฉิงและตงเฉิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของจงหนานไห่ หรือทำเนียบผู้นำระดับสูงของจีน และสถานที่ราชการต่าง ๆ

แผนการผ่อนคลายข้อจำกัดในการซื้อบ้านนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คณะผู้นำจีนได้ให้คำมั่นสัญญาในการประชุมโปลิตบูโรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 ก.ย.) ว่าจะพยายามบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ที่ประมาณ 5% และหยุดยั้งการตกต่ำของตลาดอสังหาฯ ตามรายงานของสื่อรัฐบาลจีน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นความพยายามล่าสุดของผู้กำหนดนโยบายของจีนในการหยุดยั้งภาวะตกต่ำที่ยืดเยื้อในภาคอสังหาฯ ที่กำลังประสบปัญหา และเกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นทางการเงินในวงกว้างกว่าที่คาดการณ์ไว้และมาตรการสนับสนุนตลาดอสังหาฯ เมื่อวันอังคาร (24 ก.ย.) ซึ่งรวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องและการลดอัตราดอกเบี้ย โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 67)

Tags: , , ,
Back to Top