เว็บไซต์ “ดิ อินฟอร์เมชัน” (The Information) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) ว่า อะเมซอน (Amazon) มียอดจองโฆษณาบนบริการสตรีมมิ่งวิดีโอของตนในปีหน้าทะลุเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โดยทั่วไปแล้ว ตลาดโฆษณามีระบบการซื้อขายเวลาโฆษณาล่วงหน้า (upfront ad market) ซึ่งผู้ลงโฆษณาจะเจรจาและตกลงซื้อเวลาโฆษณาจำนวนมากทั้งบนทีวีและบริการสตรีมมิ่งสำหรับช่วง 12 เดือนข้างหน้า และสำหรับปี 2567 การซื้อขายในตลาดนี้เพิ่งเสร็จสิ้นไป
รายงานระบุว่า ยอดจองดังกล่าวรวมถึงโฆษณาบนบริการสตรีมมิ่งวิดีโอของอะเมซอน ได้แก่ ไพร์ม วิดีโอ (Prime Video) และการถ่ายทอดสดกีฬาต่าง ๆ เช่น การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล Thursday Night Football ของ NFL
อะเมซอนซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ กำลังลงทุนในธุรกิจสตรีมมิ่งทีวีเพราะเชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้จากโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าที่จะดึงดูดเม็ดเงินโฆษณาส่วนใหญ่มาที่แพลตฟอร์มของตน โดยเฉพาะในช่วงที่งบโฆษณากำลังไหลไปสู่บริการสตรีมมิ่งวิดีโอมากขึ้นเรื่อย ๆ
อนึ่ง อะเมซอนเพิ่งเริ่มต้นใส่โฆษณาลงในบริการไพร์ม วิดีโอ เป็นครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้
ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา อะเมซอนร่วมกับ ESPN ของวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) และเอ็นบีซียูนิเวอร์แซล (NBCUniversal) ของคอมแคสต์ (Comcast) ได้คว้าสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันบาสเกตบอล NBA เป็นระยะเวลา 11 ปี ด้วยมูลค่าสัญญาสูงถึง 7.7 หมื่นล้านดอลลาร์
การได้สิทธิ์ถ่ายทอดสด NBA ทำให้ไพร์ม วิดีโอ มีรายการกีฬาสดให้บริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึง NFL และ NASCAR ที่จะเริ่มฉายในปี 2568
ถึงแม้อะเมซอนจะประสบความสำเร็จในการขายโฆษณาล่วงหน้าสำหรับปีถัดไป แต่ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา อะเมซอนพลาดเป้าหมายยอดขายโฆษณาซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า อะเมซอนมียอดขายอยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากการที่อะเมซอนต้องแข่งขันอย่างดุเดือดกับเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) และกูเกิล (Google) ในเครืออัลฟาเบท (Alphabet)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 67)
Tags: Amazon, สตรีมมิ่ง, อะเมซอน