สถานการณ์ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสถานีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,785 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเนื่องให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบน และฝนที่ตกในขณะนี้ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทาน ทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาตามศักยภาพของคลอง พร้อมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 1,399 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,500 ลบ.ม./วินาที โดยจะคงอัตราการระบายต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับพื้นที่ริมตลิ่งมากนัก
จากปริมาณน้ำที่ระบายดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อน บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย บริเวณตำบลหัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 60-100 เซนติเมตร
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำและพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำจากฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ และปริมาณน้ำจากทางตอนบนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ย. 67)
Tags: กรมชลประทาน, ปริมาณน้ำ, ระดับน้ำ, เขื่อนเจ้าพระยา, แม่น้ำเจ้าพระยา