จากการเก็บข้อมูลตัวเลขซื้อขายสุทธิรายโบรกเกอร์ย้อนหลัง 5 ปี จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบแรงขายสุทธิ 5 อันดับแรก มักจะมาจากโบรกเกอร์ต่างชาติ อย่าง UBS, MACQ, CLSA, JPM ที่ขายสุทธิในระดับ 1 แสนล้านบาทต่อรายขึ้นไป
ในขณะที่มีโบรกเกอร์ไทยที่ขายหนักๆ อยู่บ้าง อย่างเช่น FSS กับ MTS ก็อยู่ในระดับ 1 แสนล้านบาทขึ้นต่อรายขึ้นไปเช่นกัน
ส่วนยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปี 2024 YTD ถึง 16 ก.ย. พบว่า 5 อันดับแรก ที่โดเด่น มี CLSA,JPM,CST,UOBKHST,MACQ ขายอยู่ในระดับ 1-3 หมื่นล้านบาทต่อรายขึ้นไป
ในขณะที่โบรกเกอร์ไทยที่ขายสุทธิหนัก ก็ยังคงเป็น FSS ติดอยู่ 1 ใน 5 อันดับแรกของโบรกเกอร์ที่มียอดขายสุทธิหนักที่สุด
ด้านฝั่งซื้อสุทธิ ย้อนหลัง 5 ปี ที่มีการซื้อจะสุทธิแบบมีนัยระดับ 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป จะเป็นโบรกเกอร์ไทยทั้งหมด อาทิ BLS, INVX, KS, TNS, KSS, KKPS
ส่วนยอดซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 2024 YTD ถึง 16 ก.ย.พบว่า 5 อันดับแรกจะมีโบรกเกอร์ต่างประเทศเข้ามาร่วมซื้อสุทธิด้วย โดยสาเหตุน่าจะมาจากภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศจะขายหน่วยลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ อาทิ CGSI, BLS, KSS, UBS, KKPS
ทั้งนี้ การที่เราเห็นแรงขายหลักๆมาจากโบรกเกอร์ต่างชาติ ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะช่วงที่ผ่านมาฝรั่ง net sell ออกมาเยอะ ตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศ แต่ตารางนี้ก็สามารถชี้ให้เห็นว่า flow เหล่านี้ ส่งผ่านโบรกเกอร์ไหนบ้าง แล้วโบรกเกอร์ไหนเป็นฝั่งรับซื้อเยอะที่สุด
สำหรับโบรกเกอร์ไทยที่มีค่าเฉลี่ยการซื้อสุทธิมาตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีดังนี้ BLS, INVX, KS, KSS, KKPS
จากสถิติดังกล่าว สามารถตีความได้ว่า 5 โบรกเกอร์ดังกล่าว มีฐานผู้ลงทุนที่มีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยเป็นส่วนใหญ่ หรือในอีกทางคือช่วยพยุงตลาดหุ้นในยามที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
หมายเหตุ : ยอดขายสุทธิ ที่คำนวณออกมา จะรวมทั้ง Long Sell และ Short Sell ด้วย
ธิติ ภัทรยลรดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ย. 67)
Tags: SCOOP, ตลท., ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ตลาดหุ้นไทย, มองมุมต่าง, หุ้นไทย