นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องอัตราและหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และผลกระทบที่มีต่อโรงพยาบาลทุกระดับนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้ให้ความสำคัญ รวมทั้งได้เข้ามาแก้ปัญหาการจัดการกองทุน สปสช. เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันซึ่งเป็นสังคมผู้สูงอายุ รองรับการเข้าถึง และการให้บริการประชาชนที่มีมากขึ้น
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ระบบการจัดการและการใช้งบกองทุนแบบเดิมที่ใช้มา 22 ปี ไม่สามารถตอบสนองสถานการณ์ รวมถึงนโยบายต่อยอด 30 บาทรักษาทุกที่ได้ จึงต้องคำนึงถึงการสร้างระบบให้มีความสมดุล ยั่งยืน มีธรรมภิบาล และโปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่ง รมว.สาธารณสุข ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ด้วยการของบกลางเพิ่ม 5,924 ล้านบาท เพื่อให้สามารถคงอัตราการจ่ายค่าบริการผู้ป่วยในได้เท่าเดิมที่ 8,350 บาทต่อหนึ่งหน่วย (adjRW) เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างราบรื่น ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่
“ในการประชุมบอร์ด สปสช. วันที่ 23 ก.ย.67 รัฐมนตรีในฐานะประธานบอร์ด สปสช. จะประชุมเพื่อขยับอัตราการจ่ายค่าบริการผู้ป่วยในให้กลับมาเท่าเดิม จากที่ก่อนหน้านี้ สปสช. มีการประกาศเหลือ 7 พันบาทต่อหน่วย “ นพ.สุรโชคกล่าว
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานในระยะต่อไป ได้แก่ ระยะกลาง แม้งบผู้ป่วยในในปีงบประมาณ 2568 จะได้รับอนุมัติงบเพิ่มขึ้นประมาณ 16% น่าจะทำให้อัตราจ่ายค่าบริการต่อหน่วยเพิ่มมากขึ้น แต่เรื่องของการบริหารจัดการงบกองทุน สปสช. ปีงบประมาณ 2568 ก็จะขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการการมีส่วนร่วมตามกฎหมาย เพื่อให้บอร์ด สปสช. และอนุกรรมการชุดต่างๆ สามารถดำเนินการได้คล่องตัว ลดความขัดแย้งระหว่างผู้จ่ายเงิน ผู้ให้บริการและประชาชนผู้ใช้บริการในสิทธิที่เหมาะสม ตรวจสอบได้ ส่วนในระยะยาว จะดำเนินการจัดระบบบริหารกองทุนให้มีความยั่งยืน สมดุล และมีธรรมาภิบาล สอดคล้องตามบริบทของสังคมไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 67)
Tags: 30 บาทรักษาทุกที่, ผู้ป่วยใน, สปสช., สมศักดิ์ เทพสุทิน, สุรโชค ต่างวิวัฒน์