Google เสนอขาย AdX หวังยุติคดีผูกขาดใน EU แต่ผู้เผยแพร่โฆษณามองว่าไม่พอ

แหล่งข่าววงในสองรายเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพุธ (18 ก.ย.) ว่า กูเกิล (Google) ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออัลฟาเบท (Alphabet) พยายามยุติการสอบสวนคดีผูกขาดในสหภาพยุโรป (EU) ด้วยการเสนอขาย Ad Exchange (AdX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายโฆษณาของกูเกิลเอง แต่ผู้เผยแพร่โฆษณาในยุโรปมองว่าข้อเสนอนี้ยังไม่เพียงพอ

ธุรกิจเทคโนโลยีการโฆษณา (Ad Tech) ของกูเกิลที่ทำกำไรมหาศาลนี้ ตกเป็นเป้าสายตาหน่วยงานกำกับดูแลของ EU เมื่อปีที่แล้ว หลังจากสภาผู้เผยแพร่โฆษณาแห่งยุโรป (European Publishers Council) ยื่นเรื่องร้องเรียน

ต่อมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ตั้งข้อหากูเกิลว่าเอื้อประโยชน์ให้กับบริการโฆษณาของตัวเอง นับเป็นคดีที่ 4 ที่กูเกิลต้องเผชิญในฐานะเสิร์ชเอนจินยอดนิยมที่สุดในโลก

ทนายความสามคนที่เกี่ยวข้องกับคดีต่อต้านการผูกขาดระบุว่า กูเกิลไม่เคยเสนอขายสินทรัพย์ใด ๆ เพื่อยุติคดีลักษณะนี้มาก่อน

ปัจจุบัน กูเกิลกำลังถูกฟ้องร้องในสหรัฐฯ โดยหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดต้องการให้กูเกิลขาย Ad Manager ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วย AdX และ DFP (เซิร์ฟเวอร์โฆษณาของกูเกิลสำหรับผู้เผยแพร่)

แหล่งข่าวระบุว่า ผู้เผยแพร่โฆษณาปฏิเสธข้อเสนอของกูเกิล เพราะต้องการให้กูเกิลขายธุรกิจมากกว่าแค่ AdX เพื่อแก้ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากกูเกิลมีบทบาทในเกือบทุกระดับของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีการโฆษณา โดยหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของ EU ก็รับทราบข้อเสนอนี้แล้ว

“อย่างที่เราเคยกล่าวไว้ คดีที่คณะกรรมาธิการยุโรปฟ้องร้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โฆษณาแบบดิสเพลย์ของบุคคลที่สามของเรานั้น เกิดจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการโฆษณา ซึ่งมีการแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรายังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจนี้ต่อไป” โฆษกของกูเกิลกล่าว

ทั้งนี้ AdX หรือ Ad Exchange คือแพลตฟอร์มที่ผู้เผยแพร่โฆษณาสามารถนำพื้นที่โฆษณาที่ขายไม่ออก ไปเสนอขายให้ผู้ลงโฆษณาแบบเรียลไทม์

มาร์เกรเธอ เวสเอยา หัวหน้าฝ่ายต่อต้านการผูกขาดของ EU เคยแนะนำเมื่อปีที่แล้วว่า กูเกิลควรขาย DFP และ AdX ซึ่งเป็นเครื่องมือฝั่งผู้ขาย เพื่อยุติปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอื่น ๆ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า EC อาจจะยังไม่บังคับให้กูเกิลขายสินทรัพย์ในตอนนี้ แต่จะสั่งให้กูเกิลหยุดพฤติกรรมที่เข้าข่ายต่อต้านการแข่งขันภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากคดีนี้มีความซับซ้อน โดยคำสั่งขายสินทรัพย์อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง หากกูเกิลไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินแรกของ EU ซึ่งคาดว่าจะออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อนึ่ง ในปี 2566 รายได้จากโฆษณาของกูเกิล ซึ่งรวมถึงรายได้จาก Search, Gmail, Google Play, Google Maps, YouTube, Google Ad Manager, AdMob และ AdSense มีมูลค่าสูงถึง 2.3785 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 77% ของรายได้ทั้งหมด ส่งผลให้กูเกิลครองตำแหน่งแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลก

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 67)

Tags: , , , ,
Back to Top