พิว รีเสิร์ช (Pew Research) เปิดเผยผลสำรวจในวันอังคาร (17 ก.ย.) บ่งชี้ว่า ติ๊กต๊อก (TikTok) กำลังกลายเป็นแหล่งข่าวประจำสำหรับชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเพื่อถกเถียงเรื่องการเมือง
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ประมาณ 17% ระบุว่า พวกเขาได้รับข่าวสารเป็นประจำจากติ๊กต๊อก ซึ่งเพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปี 2563 ผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปีมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะใช้ติ๊กต๊อกในการรับข่าวสาร โดยผลสำรวจพบว่า 39% ของคนในกลุ่มอายุนี้ระบุว่า พวกเขาได้รับข่าวสารจากแอปพลิเคชันนี้เป็นประจำ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 32% เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ เกือบ 50% ของผู้ใหญ่ในกลุ่มนี้ยังระบุว่า พวกเขาใช้แอปติ๊กต๊อกเพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองหรือประเด็นทางการเมือง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลสำรวจดังกล่าวได้จากการสอบถามชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่จำนวนมากกว่า 10,650 คนในระหว่างวันที่ 15 ก.ค. – 4 ส.ค. 2567
การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้งานติ๊กต๊อกดังกล่าวมีนัยสำคัญ เนื่องจากติ๊กต๊อกกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในสหรัฐฯ โดยสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังพยายามอย่างหนักที่จะสั่งแบนติ๊กต๊อก เพราะกังวลว่า ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่สัญชาติจีนของติ๊กต๊อก อาจนำข้อมูลของผู้ใช้งานไปใช้ในทางที่ผิด หรือพยายามที่จะมีอิทธิพลต่อความคิดเห็นทางการเมืองของผู้ใช้งานผ่านเนื้อหาที่ปรากฏในแอป โดยนักการเมืองบางคนวิตกว่า ความเชื่อมโยงของติ๊กต๊อกกับจีนอาจส่งผลกระทบต่ออัลกอริทึมของแอป ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อเนื้อหาที่ผู้คนเห็น และมีอิทธิพลต่อมุมมองของชาวอเมริกันในประเด็นสำคัญต่าง ๆ
ติ๊กต๊อกได้ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อพยายามหยุดยั้งการแบนหรือข้อกำหนดให้ไบต์แดนซ์ขายกิจการติ๊กต๊อก โดยในการพิจารณาคดีที่ศาลอุทธรณ์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.) รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงยืนยันว่า ภัยคุกคามจากติ๊กต๊อกต่อความมั่นคงของชาติมีความสำคัญมากกว่าความกังวลเรื่องเสรีภาพในการพูด
แมทธิว เชตเทนเฮล์ม นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า การพิจารณาคดีไม่เป็นผลดีสำหรับติ๊กต๊อก และโอกาสที่ติ๊กต๊อกจะหยุดยั้งการแบนได้นั้น ลดลงจาก 70% เหลือ 30%
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดเส้นตายให้ไบต์แดนซ์ขายหรือโอนหุ้นในติ๊กต๊อกภายในเดือนม.ค. 2568
ส่วนผลสำรวจอีกฉบับจากพิว รีเสิร์ชที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้พบว่า การสนับสนุนการแบนติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ นั้นลดลงในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 67)
Tags: TikTok, ติ๊กต๊อก, โซเชียลมีเดีย