จีนเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันดิบในเดือนส.ค.มากที่สุดในรอบ 14 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่ายอดนำเข้าน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการสำรองน้ำมันดิบ ไม่ใช่การฟื้นตัวเนื่องจากการบริโภคเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จากการนำข้อมูลของทางการจีนมาคำนวณ พบว่า จีนเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันดิบรวม 1.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เข้าคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์หรือเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นปริมาณสำรองน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2566 ที่เพิ่มถึง 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนก.ค. ที่เพิ่มขึ้น 280,000 บาร์เรลต่อวัน
โดยปกติแล้ว จีนไม่เปิดเผยข้อมูลปริมาณน้ำมันดิบที่ไหลเข้าหรือออกจากคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์หรือเชิงพาณิชย์ แต่นักวิเคราะห์สามารถคาดการณ์ตัวเลขดังกล่าวได้โดยการนำปริมาณน้ำมันดิบทั้งหมดจากการนำเข้าและการผลิตภายในประเทศมาหักลบกับปริมาณการกลั่น
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (14 ก.ย.) ว่า โรงกลั่นของจีนผลิตน้ำมัน 59.07 ล้านเมตริกตันในเดือนส.ค. เทียบเท่ากับ 13.91 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 13.908 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่มีการกลั่นน้ำมันดิบอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2565 นอกจากนี้ ยอดการกลั่นน้ำมันดิบในเดือนส.ค. ยังลดลงจาก 15.23 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วด้วย
จีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก นำเข้าน้ำมันดิบมากถึง 11.56 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนส.ค. ขณะที่การผลิตในประเทศอยู่ที่ 4.20 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมเป็นปริมาณน้ำมันดิบที่ส่งไปยังโรงโรงกลั่น 15.76 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 จีนเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมัน 1.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวันจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นจาก 800,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 67)
Tags: จีน, น้ำมันดิบ