นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ แต่ยังเป็นภาพแกว่งขึ้น รับอานิสงส์ Fund flow ไหลเข้าต่อเนื่องหลังค่าเงินบาทแข็งค่า และแรงหนุนจากบรรยากาศของตลาดหลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมา ทำให้ตลาดคาดเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย ประกอบกับรอลุ้นการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ พร้อมให้แนวต้าน 1,435 จุด แนวรับ 1,415 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ แต่ยังเป็นภาพของการแกว่งตัวขึ้นได้ ส่วนหนึ่งมาจากทิศทางของเม็ดเงินที่ไหลเข้า (Fund Flow) จากค่าเงินบาทที่แข็งค่ายังหนุน
ขณะที่บรรยากาศการลงทุนเริ่มผ่อนคลาย หลังจากที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมา ทำให้นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้เป็น 0.50% มากขึ้น อีกทั้งปัจจัยในประเทศยังรอลุ้นการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา โดยติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกในสัปดาห์หน้า ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
ให้แนวต้าน 1,435 จุด แนวรับ 1,415 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (12 ก.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,096.77 จุด เพิ่มขึ้น 235.06 จุด หรือ +0.58%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,595.76 จุด เพิ่มขึ้น 41.63 จุด หรือ +0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,569.68 จุด เพิ่มขึ้น 174.15 จุด หรือ +1.00%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 36,882.41 จุด เพิ่มขึ้น 49.14 จุด หรือ +0.13%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,718.99 จุด เพิ่มขึ้น 1.87 จุด หรือ +0.07% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,298.35 จุด เพิ่มขึ้น 57.96 จุด หรือ +0.34%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ก.ย.67) ที่ 1,421.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.17 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 47,509.74 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (12 ก.ย.67) 898.58 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 68.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.ย.67) อยู่ที่ 2.35 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.37 แข็งค่ารอบ 18 เดือน ให้กรอบวันนี้ 33.30-33.50 จับตา Flow-ราคาทอง
- เปิดแหล่งเงินใหม่ของรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบาย ออกกฎหมายนำเงิน สมทบกองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงิน มาเป็นแหล่งเงินรัฐบาล พร้อมขายหุ้นบริษัทที่คลังถือที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ ดึงธุรกิจขึ้นบนดินเพิ่มรายได้ภาษีนำมาจัดสวัสดิการประชาชน ดัน เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพิ่มรายได้รัฐ นายกฯแถลง 10 นโยบายเร่งด่วนฟื้นเศรษฐกิจ ลุยสร้างเครื่องจักรเศรษฐกิจใหม่ เป้าหมายพ้นกับดักรายได้ปานกลาง
- รมว.คลัง แจงสภาฯ รัฐบาลพร้อมโอน “เงินดิจิทัล” 10,000 บาท ก้อนแรก ให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ได้ 25 กันยายนนี้ ระบุใช้งบ 1.42 แสนล้านบาท รับงบมีจำกัด ขอใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ก่อนลุยเฟส 2 ที่ลงทะเบียนไว้ 30 ล้านคน
- “นายกฯ” ถกแก้น้ำท่วม หาปมวิกฤตเชียงรายรุนแรง เตรียมควง รมต.ลงพื้นที่พบประชาชน หลังถูกอัดยับมัวแต่ประชุม “นักวิชาการ” ชำแหละกลไกแจ้งเตือนล้าหลัง ขณะที่สถานการณ์น้ำแม่สายลดระดับลง แต่เฝ้าระวังฝนตกเพิ่ม ส่วนน้ำแม่กกยังไหลเข้าเมือง “สนามบินแม่ฟ้าหลวง” ถูกล้อม ยกเลิกทุกเที่ยวบิน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TOA (คิงส์ฟอร์ด) แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย Bloomberg Consensus 25.20 บาท กำไรสุทธิ H1/67 ที่ 1,281 ล้านบาท -6.72%(YoY จากค่าใช้จ่ายพนักงานการตลาดและโฆษณาสูงขึ้น รวมถึงตัดขายสินทรัพย์ย้าย รง.ในมาเลย์ ช่วงถัดไปแม้ Q3/67 อาจอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่คาดฟื้นดีใน Q4/67 หนุนด้วยฤดูกาล-ซ่อมแซมหลังน้ำท่วม ยังน่าสนใจจากเป็นหุ้นใน SET100,SETESG ได้ ESG Ratings ระดับ A ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 2,496 ล้านบาท (-5.34%YoY) และ 2,673 ล้านบาท (+7.09%YoY)
- AURA (กสิกรไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 18.48 บาท แนวโน้มโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อทองคำและค้าปลีกทองคำ ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจากดีมานด์สูงเกินเป้า ราคาทองคาดยังสูงต่อจากแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคสนับสนุน ทั้งการลดดอกเบี้ยของเฟดและความดึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ บริษัทยังวางแผนกระจายแหล่งทุนผ่านการออกหุ้นกู้ปีนี้ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและรองรับการขยายพอร์ตสินเชื่อ รวมถึงมีโอกาสปรับเพิ่มค่ากำเหน็จทองคำหนุนศักยภาพกำไรระยะยาวม ราคาหุ้นยังคงต่ำกว่าระดับ Record High ที่ 20.3 บาทถึง 32% แม้กำไรแข็งแกร่งต่อเนื่อง
- MINT (พาย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 36 บาท 1. โอกาสเติบโตบนเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง และความผับผวนผวนอัตรากำไรสุทธิต่ำกว่าค่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 2. อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) แนวโน้มโตจากแผนผลักดันธุรกิจ Assets Light 3. อานิสงส์นักท่องเที่ยวในยุโรปฟื้น European Travel Commission (ETC) มองเป้ายอดใช้จ่ายนักท่องเที่ยวปี 67 พุ่ง +14% YoY และ 4. มูลค่าหุ้นน่าสนใจ EV/EBITDA ที่ 6x ต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่ PE ซื้อขายที่ 20x
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ย. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา, หุ้นไทย